ณัฐวุฒิ เผย ไอทีอาร์ซี สั่งไทยโค่นต้นยางพารากว่า 6 แสนไร่ ลดปริมาณการผลิต แก้ปัญหายางพาราตกต่ำ ชี้ ปกติไทยโค่น 3 แสนไร่ต่อปีอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรต้องตระหนก
วันนี้ (17 สิงหาคม) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า ตนได้เปิดเผยผลการประชุมไตรภาคีสภายางพารา (ไอทีอาร์ซี) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศที่ปลูกยางพาราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ให้ทาง กนย. ทราบแล้ว ซึ่งทางไอทีอาร์ซี มีมติให้ลดปริมาณการส่งออกยางพาราของภูมิภาคให้ได้ 3 แสนตัน เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำ โดยการลดอุปทานในตลาด ทั้งนี้ ไทยจะลดปริมาณการส่งออกมากที่สุด คือ ร้อยละ 45-50 จากเป้าหมายการลด เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุด รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิธีการลดการผลิตยางพารา วิธีที่มักใช้กันมากที่สุดคือ การโค่นต้นยางพารา ซึ่งที่ประชุมไอทีอาร์ซี ระบุว่า 3 ประเทศดังกล่าวจะต้องโค่นต้นยางพาราให้ได้จำนวน 625,000 ไร่ เพื่อลดการผลิตยางลงมาอยู่ที่ 150,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม การโค่นต้นยางพารา เป็นเรื่องปกติของไทยอยู่แล้ว ที่มีการโค่นปีละ 3 แสนไร่ ดังนั้นตัวเลขจึงไม่ต่างจากของเดิมมาก และตอนนี้ทางเออร์โก้ บริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ ได้ออกแถลงการณ์แจ้งต่อสื่อมวลชนทั่วโลก เกี่ยวกับมาตรการนี้แล้ว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้นัดผู้ประกอบการส่งออกยางพาราของไทย มารับทราบเกี่ยวกับมาตรการ และสถานะของธุรกิจของแต่ละราย ต่อมาวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ตนก็จะไปประชุมไอทีอาร์ซีที่อินโดนีเซียอีกครั้ง เพื่อสรุปความคืบหน้าของมาตรการ โดยมีแผนรองรับเอาไว้แล้วว่า หากราคายางพาราสูงขึ้น ก็จะคงมาตรการเดิมไว้ แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการเข้าไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่ไอทีอาร์ซี ออกมาตรการนี้มา พบว่า ราคายางพาราได้ขยับขึ้น 1 บาทเศษ
นายณัฐวุฒิ กล่าวปิดท้ายว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สนใจที่จะนำยางพารามาแปรรูปเป็นยางมะตอย สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า ถ้าหากกรมทางหลวงและสถาบันวิจัยยางสามารถรับแนวคิดนี้ได้ ก็จะเพิ่มปริมาณการบริโภคในประเทศให้มากขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
