เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ไลค์ดะ
ชาวเน็ต ถล่ม เพจไลค์ดะตัดต่อรูปพ่อขุนเม็งรายฯ ไม่เหมาะสม ด้านวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เตรียมแจ้งความเอาผิด ชี้ ความผิดชัดเจน เตรียมเอาผิดคนเผยแพร่ด้วย
เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกไซเบอร์อีกแล้ว สำหรับกรณีที่เพจบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก มีการโพสต์รูปหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม เพียงเพื่อจะเรียกให้สมาชิกเข้ามากดไลค์เพจกันเยอะ ๆ และล่าสุดกับ "เพจไลค์ดะ" ซึ่งเป็นเพจที่โพสต์ภาพตัดต่อ โดยการนำเอาไอคอนมือชูนิ้วโป้งกดไลค์ มาตัดต่อในภาพต่าง ๆ อาทิ ภาพดารา, นักการเมือง, นักกีฬา ต่าง ๆ และแปลงชื่อของพวกเขาให้มีคำว่าไลค์ เช่น ไลค์อัน กิกส์, นานา ไลค์บีน่า, อรจิรา แหลมวิไลค์, กรุง ศรีวิไลค์, ไลค์ลา บุญยศักดิ์, มาไลค์ แคร์รี่ ฯลฯ
แต่ภาพที่เป็นประเด็นถึงความไม่เหมาะสมและกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วนั้น นั่นก็คือ ภาพของพ่อขุนเม็งราย ที่ถูกตัดต่อและเปลี่ยนชื่อเป็น พ่อขุนเม็งไลค์มหาราช นอกจากนี้ยังมีภาพของ พระดาไลลามะ, องค์พระยูไล ที่ถูกเติมชื่อเป็นคำว่าไลค์ และตัดต่อใส่นิ้วโป้งเข้าไป จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน้าเพจดังกล่าว ทางแอดมิน "ไลค์ดะ" ก็ยังคงโต้เถียงและไม่คิดว่าเพจของเขาไม่เหมาะสม ส่วนบรรดาชาวเน็ตก็แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง อาทิ
ถ้าชาวธิเบตหรือผู้นับถือองค์ดาไลลามะได้เห็นภาพนี้จะคิดอย่างไร การอยู่ในสังคมหมู่มากถ้าหากไม่รู้จักข่มใจต่อความสนุกอาจทำให้เกิดความทุกข์ทั้งแก่ตนและผู้อื่นได้... รูปบางรูปก็ไม่น่าเล่นนะครับ แต่ก็นะ ห้ามกันลำบากโลก social ทำไรไม่มีขอบเขต ก็เตรียมรับกระแสสังคมด้วยนะ ของสูงเอามาเล่นได้ไงแบบนี้ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง หรือว่าคนที่ทำมันไม่มีศาสนาดาไลค์ลามะ
ลบออกเหอะพวก อย่าไปล้อเล่นกับคนเชียงรายเลย มันไม่ใช่เรื่อง เขานับถือ มันเป็นสัญลักษณ์ ที่พวกเรา ให้ความเคารพ ไม่ควรไปแตะดีกว่าครับขณะที่เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายมงคล สิทธิหล่อ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว และจะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพิจารณา ถึงกรณีที่มีผู้นำภาพพ่อขุนเม็งรายมหาราชไปตัดต่อ ว่า จะแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายหรือไม่ พร้อมกับส่งต่อไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงไอซีที กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรจแห่งชาติ
ทั้งนี้ นายมงคล ยังระบุด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเบื้องต้น ถือว่ามีความผิดชัดเจน คือ ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำการดัดแปลงพระรูปภาพ และทำลายความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เพราะประชาชนในพื้นที่เริ่มมีการตอบโต้อย่างรุนแรงมากขึ้น และอาจมีการปลุกระดมคนทั้งหมด ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา เบื้องต้น ทางวัฒนธรรมจังหวัด จะได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามบุคคลที่กระทำการดังกล่าว และขอความร่วมมือทุกคน หยุดเผยแพร่ภาพตัดต่อดังกล่าว เพราะอาจมีความผิดเข้าข่ายเผยแพร่ภาพได้
