เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Baantalaymhork.com
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เตรียมเดินหน้ารื้อรีสอร์ทรุกที่อุทยานแห่งชาติทับลานให้เสร็จสิ้นภายใน 15 กันยายนนี้ หลังศาลปกครองกลางยกคำร้อง ไม่คุ้มครองบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา สั่งระงับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ตามคำสั่งของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำสั่งของนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ให้นางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ และห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านทะเลหมอก ผู้ฟ้องคดี ทำลายหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งรุกล้ำพื้นที่บนอุทยานแห่งชาติทับลาน และคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีนั้น เป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย
อีกทั้ง การที่จะพิจารณาว่าคำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเนื้อหาคดีที่ศาลต้องดำเนินดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป ดังนั้นจึงไม่อาจมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งในประเด็นดังกล่าวในชั้นนี้ได้ และการที่คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไป ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดี เนื่องจากผู้ฟ้องคดีอาจขอให้ศาลกำหนดให้ชดใช้ค่าเสียหายแทนได้
และศาลเห็นว่า การมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาโต้แย้งการออกคำสั่งอื่น ๆ ของนายเทวินทร์ ที่ได้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลานไปแล้ว 49 ราย และอาจมีผลกระทบต่อการดูแลรักษาพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และเป็นมรดกโลก ดังนั้นการขอทุเลาการบังคับตามคำสั่ง ย่อมเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่บริหารสาธารณะ จึงให้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอมานั่นเอง
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงการยกคำร้องของศาลว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี จากนี้เราก็จะดำเนินการเข้าไปรื้อถอนต่อให้จบ แม้เจ้าของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทได้แจ้งความตน โดยอ้างว่า ตนเป็นผู้ลงนามในเอกสารเช่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ลงวันที่ 19 กันยายน 2548 แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีการให้เช่าแต่อย่างใด และเป็นความเข้าใจผิดของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม นายดำรงค์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนตนเกษียณอายุราชการจะเร่งดำเนินงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โดยหลังจากเข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท 3 แห่งที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ในช่วงต้นเดือนกันยายน จากนั้นจะย้อนกลับไปดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลานต่อให้จบทันที คาดว่าไม่เกินวันที่ 15 กันยายนนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
