เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
แม่ขอความเป็นธรรมลูกถูกหนุ่มสวีเดนแทงดับ ไม่ใช่รักสามเส้า คาดถูกลวงไปฆ่า วอนหาหลักฐานมัดตัวคนร้ายโดยเร็ว
สืบเนื่องจากกรณีที่หนุ่มไทยวัย 18 ปี นิสิตจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งบุกชกหนุ่มสวีเดนถึงห้องพักในโรงแรมในตัวเมืองสระแก้ว แต่สู้ไม่ได้จึงคว้ามีดมาหวังแทง จนเกิดการแย่งมีดกัน หนุ่มสวีเดนแย่งได้แทงสวนเข้าตัวหนุ่มไทยจนเสียชีวิต ซึ่งตำรวจพุ่งประเด็นไปที่ปมชู้สาวนั้น อย่างไรก็ดี ก็มีชาวเน็ต รวมถึงผู้ที่รู้จักกับผู้ตายพากันโต้แย้งว่าสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องรักสามเส้าดังที่หญิงสาวได้ให้การไว้ก่อนหน้านี้
ล่าสุด ช่วงเย็นวานนี้ (22 สิงหาคม) นางวาสนา นาสืบ แม่, นางสาวหทัยรัตน์ พลาหาร ลูกพี่ลูกน้อง รวมถึงครูนวพรรษ พรมสละ ครูของน้องหนึ่ง นิสิตหนุ่มผู้เสียชีวิต ได้ร้องขอความเป็นธรรม โดยชี้แจงผ่านรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3
ย้อนกลับไปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม น้องหนึ่ง ผู้เสียชีวิตวัย 18 ปี เป็นหนุ่มหน้าตาดี มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะ ถูกแทงหลายแผล ก่อนวิ่งออกมาล้มลงขาดใจเสียชีวิตหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.สระแก้ว ซึ่งตามรายงานข่าวได้ระบุว่า เหตุเกิดจากรักสามเส้า โดย น.ส.จี เป็นเพื่อนสนิทที่เคยเรียนกับน้องหนึ่งที่สระแก้ว แต่มีแฟนชาวสวีเดน ชื่อ จอนิส หลังจากที่ไปเรียนต่อและอยู่กับแม่ที่สวีเดน ซึ่งเธอให้การว่า น้องหนึ่งหึงหวงตามไปที่โรงแรมที่พักพร้อมกับทำร้ายร่างกายแฟนชาวสวีเดนแต่เกิดการต่อสู้กัน แฟนชาวสวีเดนได้ใช้มีดแทงกลับเพื่อป้องกันตัวจนน้องหนึ่งเสียชีวิต
ซึ่งทางครอบครัวโต้แย้งว่า ต้องการให้ผู้สื่อข่าวแก้ข่าวว่าสาเหตุไม่ใช่รักสามเส้าดังที่เป็นข่าวแน่นอน เพราะน้องหนึ่งไม่ได้ชอบพอกับจี ตรงกันข้ามสมัยที่จีอยู่สระแก้วเป็นฝ่ายที่มาชอบพอน้องหนึ่งเอง และวันเกิดเหตุเชื่อว่าจีมีส่วนในการฆาตกรรมโดยหลอกล่อให้น้องหนึ่งออกไปพบที่โรงแรม โดยเชื่อว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะจีมาชอบน้องหนึ่งแต่ไม่สมหวัง หรืออาจเพราะจีติดต่อน้องหนึ่งมาให้เพื่อนชาวสวีเดนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเกย์
ด้านคุณแม่ เปิดเผยว่า ที่ตนคิดว่าเป็นการฆาตกรรมนั้น เนื่องจากหากเป็นรักสามเส้าแล้วน้องหนึ่งเข้าไปทำร้ายจอนิสจริง ๆ คนร้ายก็ต้องมีบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้บ้าง แต่เขาไม่มีเลย ขณะที่น้องหนึ่งถูกแทงยับเยิน โดนแทงข้างหลัง ท้ายทอย สะบัก อกซ้าย มือ รวม 8 แผล ซึ่งเป็นบาดแผลที่รุนแรงทั้งนั้น ซึ่งตนรู้สึกรับไม่ได้จริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงฆาตกรรมโหดร้ายทารุณได้ถึงขนาดนี้ อีกทั้ง หากหึงจริงทำไมน้องหนึ่งกับจอนิสถึงคุยกันรู้เรื่องเป็น 10 นาทีก่อนลงมือ เพราะน้องหนึ่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเก่งมากนัก ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นขณะนี้ทางตำรวจกำลังเชิญตัวพ่อแม่ของจอนิสมาให้การเพิ่มเติม ส่วนจีก็ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเนื่องจากจอนิสขอรับผิดคนเดียว และแม่เชื่อว่าหนึ่งถูกหลอกไป เพราะเขาเป็นคนซื่อ ใครขอความช่วยเหลือเขาก็จะช่วยทันทีไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิง
เมื่อสอบถาม นางสาวหทัยรัตน์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องหนึ่ง ก็ยืนยันว่า คดีดังกล่าวไม่ใช่รักสามเส้าแน่นอน โดยระบุว่า ตนเป็นเพื่อนสนิทจีมาตั้งแต่ประถม จีเป็นฝ่ายที่ชอบหนึ่งและมักจะฝากตนให้ไปบอกกับหนึ่ง แต่หนึ่งไม่เคยชอบและไม่เคยพูดถึงจีเลย ไม่เคยคบหาหรือเป็นแฟนกันมาก่อน และก่อนเกิดเหตุ จีก็พยายามโทรติดต่อตนทั้งวันชวนตนให้ไปที่โรงแรมแต่ตนก็ไม่ไป เพราะไม่รู้จะไปทำไมและไม่ว่างด้วย วันต่อมาจีได้เฟซบุ๊กติดต่อหนึ่งว่า ขอเบอร์หน่อย กลับมาเมืองไทยแล้วอยากเจอเพื่อนเก่า ซึ่งหนึ่งก็ให้เบอร์ไป แต่พอจีได้เบอร์หนึ่งแล้วก็เลิกติดต่อตนทันที ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่สาเหตุการเสียชีวิตจะเป็นปมชู้สาว
ด้านครูนวพรรษ ซึ่งสนิทกับน้องหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนก็มีความผูกพันกับน้องหนึ่งในฐานะครู-ลูกศิษย์ หลังเกิดเหตุมีนักเรียนที่เป็นรุ่นน้องผู้ชายซึ่งมีบุคลิกกระตุ้งกระติ้งมาบอกตนว่า วันที่พี่หนึ่งตาย เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจีเช่นกัน แต่วันนั้นฝนตก เขาไม่มีรถจึงไม่ได้ออกไปหาจี ซึ่งเขารู้สึกขนลุกมากเพราะคิดว่าถ้าเขาไปอาจจะเป็นคนที่เสียชีวิตในวันนั้นก็ได้
นอกจากนี้ นางสาวหทัยรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในห้องของโรงแรมยังพบอาวุธอย่างอื่นอีก ซึ่งมีทั้ง มีด เครื่องช็อตไฟฟ้า สนับมือ มีเป้าที่มีรอยมีดแทง ทุกอย่างเหมือนเตรียมเอาไว้ ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ และหลังเกิดเหตุตนไม่สามารถติดต่อกับจีทางโทรศัพท์ได้ และเขาก็ปิดเฟซบุ๊กไปด้วย
ทั้งนี้ คุณแม่ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากขอความเป็นธรรมจากสื่อและตำรวจ ขอให้จับตัวคนร้ายให้ได้ทั้งหมด ไม่ปล่อยให้ฝ่ายหญิงลอยนวลหากทำผิดจริง และหาหลักฐานมาช่วยไขคดีให้กระจ่างโดยเร็ว
