x close

ครูสาวเศร้า! ควายเผือกที่วัดลำปาง ไม่ใช่เจ้าบุญมา

ควายเผือกบุญมา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

         ครูสาวเผยควายเผือกที่วัดลำปางไม่ใช่เจ้าบุญมาที่ตนนำไปบริจาคและหายไปจากศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

          จากกรณีที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอนคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ออกมาเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยออกมาชี้แจง หลังนำควายเผือกชื่อบุญมาไปบริจาคให้กับศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ แต่ควายดังกล่าวได้หายไป 

          อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่จบ เมื่อนางอิงอร เทพรักษา อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.นันทวรรณ ก็ได้ออกมาเรียกร้องถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้งว่า ขอให้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาต้องเป็นคนภายนอก เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอธิการบดี และผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือที่เป็นคนภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์โดยตรง โดยสิ่งที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ให้นิติกรเป็นผู้ชี้แจงเชื่อว่าคงไม่รับรู้ความจริงว่าควายบุญมายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

          พร้อมกันนี้ นางอิงอร ชี้แจงว่า การมอบสิ่งของหรือแม้แต่ควายบุญมาให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ไปแล้ว ควายบุญมาถือว่าเป็นทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย หากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ต้องการจะดำเนินการกับสิ่งที่บริจาคต้องกลับไปดูว่า พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ.2547 มาตรา 15 วรรค 2 ที่ระบุว่า "เงินและทรัพย์สินที่ผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัยจะต้องจัดการตามเงื่อนไขผู้ที่อุทิศให้กำหนดไว้ และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว มหาวิทยาลัยต้องได้รับความยินยอมจากผู้อุทิศให้หรือทายาท หากไม่มีทายาทหรือไม่ปรากฏ จะต้องได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย"

          นางอิงอร กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ควายบุญมาไม่อยู่ในศูนย์ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เพราะสื่อและสังคมทั่วไปให้ความสนใจมาก พยายามสอบถามความจริงว่า เส้นทางของควายบุญมาไปอย่างไร แต่ผู้เกี่ยวข้องไม่บอกพยายามบอกบ่ายเบี่ยงตลอด ไม่ว่าจะเชือดแล้วหรือหายไปโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ก็ตามถือว่ากระทำผิดต่อ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยดังกล่าว ที่สำคัญจุดประสงค์ของลูกสาวที่นำไปบริจาคให้ศูนย์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ต้องการให้อนุรักษ์ ไม่ใช่บริจาคแล้วให้เอาไปขายหรือนำไปเชือด หากเป็นศูนย์ต้องมีบัญชีควายทุกตัวว่ามีจำนวนเท่าได ต้องสามารถตรวจเช็คได้ว่า ควายที่ใครบริจาคยังอยู่ที่ศูนย์หรือไม่

          ด้าน นายชาญชัย เทพรักษา อายุ 57 ปี บิดาของ น.ส.นันทวรรณ กล่าวว่า พยายามสอบถามเรื่องนี้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ว่าควายบุญมาของลูกสาวที่นำไปบริจาคยังอยู่หรือไม่ แต่เท่าที่สืบด้วยตัวเองทราบว่า ควายบุญมาถูกขายไปที่นายอัง ชาว ต.คุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จากนั้นก็ขายให้กับโรงเชือดไปแล้วเช่นกัน


 ควายเผือก


          อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วันนี้ (26 สิงหาคม) พระครูปลัด อัครพล กตธัมโม เจ้าอาวาสวัดฉลองราชศรัทธาราม ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า ทางวัดเองก็เพิ่งได้รับบริจาคควายมา 1 ตัว เมื่อประมาณ 20 วัน มีชาวบ้านได้ไปไถ่ชีวิตควายเผือกเพศผู้ตัวนี้มาจาก จ.แพร่ ขณะที่พ่อค้ากำลังจะนำควายไปส่งขายต่อที่ประเทศจีน ส่วนควายเผือกตัวนี้ อายุประมาณ 3 ปี มีลูกอัณฑะสีชมพู นัยน์ตาแดงก่ำ เชื่อว่าน่าจะเป็นควายของศูนย์อนุรักษ์ควายไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ที่หายไป จึงแจ้งผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบ

          ล่าสุด รายงานข่าวระบุว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อครอบครัวเทพรักษาเดินทางไปตรวจสอบควายเผือกถึงที่วัดดังกล่าว พบว่า ไม่ใช่เจ้าบุญมา เนื่องจากลักษณะและรูปร่างที่แตกต่างกัน อีกทั้งเมื่อลองให้กินกล้วยซึ่งเป็นอาหารที่เจ้าบุญมาชอบแต่ควายเผือกตัวนี้ก็ไม่กิน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครูสาวเศร้า! ควายเผือกที่วัดลำปาง ไม่ใช่เจ้าบุญมา โพสต์เมื่อ 26 สิงหาคม 2555 เวลา 12:04:33 3,019 อ่าน
TOP