x close

ครม.ไฟเขียวกฎหมายจับของปลอม โทษคุก 4 ปี






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
 
          ครม.ร่างกฎหมายเอาผิดสินค้าปลอม โทษจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสนบาท คาดประกาศใช้ปีหน้า สั่งพาณิชย์จังหวัดตรวจเข้ม หากพบสั่งปรับ-จำคุกทันที
 
          วันนี้ (12 กันยายน) นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมายเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 เพิ่มการบังคับและเอาผิดผู้ผลิตและจำหน่ายการใช้หีบห่อแท้แต่บรรจุผลิตภัณฑ์ปลอมแปลง โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
          ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ปัญหาของปลอมเครื่องหมายการค้า โดยนำผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพ หรือผลิตภัณฑ์จริงที่ใช้แล้ว มาบรรจุในหีบห่อแท้เพื่อจำหน่ายตามตลาดนัด แหล่งชุมชน และแผงลอยทั่วไปมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้สถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าปลอมก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเจ้าของสินค้าแท้จริงและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สินค้าที่พบการปลอมปนเป็นจำนวนมาก อาทิ เหล้าปลอม ซีอิ๊วปลอม สินค้าอุปโภคบริโภคปลอม (แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน กาแฟ ฯลฯ) ทั้งแบบรีฟิวและบรรจุหีบห่อ น้ำหอมปลอม เป็นต้น
 
          ด้านนายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าปลอม โดยเฉพาะตามตลาดนัดและแผงลอยทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นแหล่งขายของปลอมแปลงทุกชนิด ทั้งนี้ คาดว่าจะประกาศร่างแก้ไขดังกล่าวเพื่อมีผลบังคับใช้ในปี 2556
 
          นอกจากนี้ นายภูมิ จะเป็นประธานประชุมในวันที่ 17 กันยายนนี้ ร่วมกับเจ้าของพื้นที่ให้ร้านค้าเช่า เช่น กรมธนารักษ์ สำนักงานกรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อขอความร่วมในการป้องปรามการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเสนอให้เจ้าของพื้นที่เช่ายกเลิกสัญญาเช่าทันที หากพบว่าร้านค้าเช่าจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และในวันที่ 22 - 23 กันยายน จะจัดประชุมระดมความคิดเห็นองค์กรจัดเก็บลิขสิทธิ์ เพื่อการปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ หลังพบว่ามีการจัดเก็บซ้ำซ้อนและบางบริษัทตั้งขึ้นมา แต่มีเพลงในสังกัดน้อย ซึ่งล่าสุดจะมีการตั้งบริษัทจัดเก็บอีก 1 ราย จากเดิมมีแล้ว 32 ราย
 
          สำหรับความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิภาค (จีไอ) ในยุโรปของข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงนั้น ในวันที่ 24 กันยายนนี้ ผู้แทนจากสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาอียู จะเดินทางมารับฟังการชี้แจงขบวนการผลิตสินค้าจีไอของสินค้า 3 ชนิด ก่อนจะมีการประกาศขึ้นทะเบียนภายในปีนี้ หลังยื่นเรื่องกว่า 3 ปี โดยขณะนี้ทั่วโลกสนใจเรื่องสินค้าจีไอมากขึ้น จึงทำให้หลายจังหวัดในไทยตื่นตัว มีการยื่นคำขอมาแล้ว 91 คำขอ จำนวนนี้ได้รับจดแล้ว 46 คำขอ
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครม.ไฟเขียวกฎหมายจับของปลอม โทษคุก 4 ปี โพสต์เมื่อ 12 กันยายน 2555 เวลา 10:26:48 2,381 อ่าน
TOP