x close

เร่งสางคดี 2 สามีภรรยาหายตัว 3 ปี หลังพบรถในบ้านร้าง


เร่งสางคดี 2 สามีภรรยาหายตัว 3 ปี หลังพบรถในบ้านร้าง
 
เร่งสางคดี 2 สามีภรรยาหายตัว 3 ปี หลังพบรถในบ้านร้าง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

            นายสว่าง นุ่มจุ้ย อายุ 55 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังพบรถยนต์ของลูกชาย และลูกสะใภ้ที่หายตัวไปลึกลับเมื่อ 3 ปีก่อน ถูกจอดทิ้งไว้ในบ้านร้างแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี โดยคาดว่าทั้งคู่อาจถูกฆาตกรรม แต่ไม่มีหลักฐาน

            เมื่อเวลา 13.00 น. ของวานนี้ (16 กันยายน) นายสว่าง  นุ่มจุ้ย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 6 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มนัส นิลกลัด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่า พบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 5960 เพชรบุรี ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ลูกชาย และลูกสะใภ้ ที่หายตัวไปเมื่อปี 2552 โดยรถคันดังกล่าวได้จอดอยู่ในบ้านร้างเลขที่ 125/53 ซอยศิริโชติ กรุงเทพ-นนท์ ซอย 1 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี

            นายสว่าง กล่าวว่า รถคันดังกล่าวมีชื่อของ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ลูกสะใภ้เป็นเจ้าของ โดยลูกชาย และลูกสะใภ้ หายตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2552 จึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แต่คดีไม่คืบหน้า จนกระทั่ง น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย อายุ 34 ปี ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกกับตนว่า พบรถยนต์ของนายสามารถจอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว

            ด้าน น.ส.วิมล พี่สาวนายสามารถ กล่าวว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่นักสถิติ ระดับ 3 แผนกสังกัดกลุ่มอายุรกรรม ที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่จะพบรถยนต์ของน้องชาย นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ ซึ่งเป็นพี่ชายของ พ.ต.อ.น.พ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒน์ นายแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ เล่าว่า มีคนพบรถยนต์ของน้องชายตนจอดอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้เดินทางมาดู เมื่อพบว่าเป็นรถของน้องชายตน จึงได้โทรศัพท์ไปบอกบิดา

            ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่พบรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ในโรงรถของบ้านร้างที่ไม่มีผู้พักอาศัย เนื้อที่กว่า 80 ตารางวา สภาพรถล้อรถยนต์ถูกถอดออกทั้ง 4 ล้อ โดยมีก้อนอิฐรองไว้ จึงยกรถมาตรวจสอบที่โรงพัก โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบกระเป๋าลายพรางทหารวางอยูที่เบาะข้างคนขับ ภายในมีบัตรประชาชนของ น.ส.อรษา และบัตรประกันสังคม นอกจากนี้ ยังพบหมวกสานไม้ไผ่วางอยู่ในแคป โดยมีรอยคล้ายเลือดติดอยู่ แต่ต้องนำเข้าห้องแล็บเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

            ด้าน พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของใคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบใบแจ้งค่าไฟฟ้าและเอกสารต่าง ๆ ระบุชื่อ วิสสา จันทรบัญชร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวมาสอบปากคำว่ารถคันดังกล่าวมาอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้อย่างไร

            ขณะแหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายสว่าง และนายสามารถ สองพ่อลูกมีไร่สับปะรดติดกับ พ.ต.อ.น.พ.สุพัฒน์ โดยนายสว่าง และลูกชายมักจะเข้าไปช่วยนายตำรวจคนดังกล่าวอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังจากที่นายสามารถว่าจ้างรถกระบะมาขนสับปะรดที่รับซื้อมา แต่รถคันดังกล่าวเกิดติดหล่ม จึงได้ไปขอยืมรถยนต์ของ น.ส.สา ซึ่งเป็นภรรยาของนายตำรวจคนดังกล่าวเพื่อมาลากรถยนต์ที่ติดหล่ม โดย น.ส.สา ได้ให้ นายไก่ คนงานชาวพม่าขับ แต่รถยนต์ของ น.ส.สา เกิดติดหล่มอีกคัน นายสามารถจึงได้ไปขอยืมรถยนต์อีกคัน เพื่อมาลากรถทั้ง 2 คัน แต่นายตำรวจคนดังกล่าวมาพบรถยนต์ของ น.ส.สา จอดอยู่ จึงได้บอกให้ น.ส.สา ไปแจ้งความว่านายสามารถลักรถยนต์ จนมีการขึ้นศาลก่อนที่ศาลจะตัดสินว่านายสามารถไม่มีความผิด  

            แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า หลังจากที่นายสามารถ และภรรยาหายตัวไป นายสว่าง ได้เดินทางไปพบกับนายตำรวจคนดังกล่าวเพื่อขอศพนายสามารถ และลูกสะใภ้คืน แต่นายตำรวจคนดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง ส่วนสาเหตุที่นายสุเทพ มาบอกกับ น.ส.วิมล เรื่องรถยนต์คันดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่นายสุเทพกับ พ.ต.อ.น.พ.สุพัฒน์ มีปัญหาฟ้องร้องเรื่องมรดกกันอยู่ โดยนาย พ.ต.อ.น.พ.สุพัฒน์ ได้ขอให้ น.ส.วิมล ช่วยเป็นพยานต่อศาลเรื่องการดูแลมารดา แต่นายสุเทพ ทราบเรื่องจึงได้นำเรื่องรถยนต์มาบอกกับ น.ส.วิมล นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า นายสามารถ และ น.ส.อรษา ได้ถูกอุ้มฆ่า และฝังอยู่ใต้กอไผ่ใน จ.เพชรบุรี ด้วย

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เร่งสางคดี 2 สามีภรรยาหายตัว 3 ปี หลังพบรถในบ้านร้าง โพสต์เมื่อ 17 กันยายน 2555 เวลา 09:12:51 2,131 อ่าน
TOP