เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Vance Jacobs 2012
นักวิทย์ทดสอบปล่อยเครื่องบินให้ตกสู่พื้น พบผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังเครื่อง มีโอกาสรอดชีวิตมากสุด ขณะที่ชั้นเฟิร์สคลาสตายเรียบ เพราะอยู่ส่วนหน้า
เมื่อวันที่ 16 กันยายน เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดสอบปล่อยเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 727 ให้ร่วงลงสู่พื้น เป็นการจำลองเหตุเครื่องบินตกเพื่อสังเกตสภาพตัวเครื่องและผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายใน ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่า ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังเครื่องบินมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก
โดยการทดลองด้านการบินดังกล่าวได้ควบคุมเครื่องบินโบอิ้ง 727 ชนิด 170 ที่นั่ง ให้ตกลงสู่ทะเลทรายโซโนรันของเม็กซิโก โดยมี นักบิน เจมส์ สโลคัม วัย 55 ปี กระโดดร่มออกจากเครื่องบินที่ความสูง 2,500 ฟุต หลังจากนั้น นักบินอีกคนหนึ่งที่ขับเครื่องบินเล็ก Cessna ตามมาก็ใช้รีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องบินโดยสารให้ร่วงลงสู่พื้นดิน ด้วยความเร็ว 140 ไมล์ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ติดตั้งหุ่นดัมมี 3 ตัว ไว้ภายในเครื่อง ซึ่งหุ่นเหล่านี้ถูกออกแบบให้เคลื่อนไหวร่างกายได้เหมือนมนุษย์ โดยหุ่นแต่ละตัวถูกวางไว้ในท่านั่งแตกต่างกัน ตัวที่หนึ่งอยู่ในท่าก้มตัวกอดเข่า และคาดเข็มขัดนิรภัย ตัวที่สองคาดเข็มขัดนิรภัยแต่ไม่นั่งในท่าก้มตัวกอดเข่า และตัวสุดท้ายไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่อยู่ในท่าก้มตัวกอดเข่าด้วย
เมื่อเครื่องบินตกกระแทกพื้นโดยเอาส่วนหัวลงก่อน ปรากฏว่า หุ่นที่นั่งในท่าก้มตัวกอดเข่าจะปลอดภัยจากแรงกระแทก ตัวที่ไม่ได้อยู่ในท่าดังกล่าวได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ และตัวสุดท้ายที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ในสภาพพังยับ
และสำหรับผลการทดลองสรุปได้ว่า ผู้โดยสารร้อยละ 78 จะรอดชีวิตจากการตกในลักษณะนี้ โดยผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังเครื่องมีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด ขณะที่ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสจะเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากส่วนหน้าของเครื่องบินจะฉีกขาดออกจากลำตัว
ทั้งนี้ โครงการทดลองดังกล่าวมีมูลค่า 1 ล้านปอนด์ (ราว 50 ล้านบาท) จะแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของอังกฤษในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเครื่องและร่างกายมนุษย์ เพื่อหาแนวทางรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
