เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พล.ต.ต.วิชัย เตรียมแถลงออกจากราชการวันนี้ เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจ เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ หลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีบีบผู้ต้องหาใช้หนี้พนัน ด้วยมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0
เมื่อวานนี้ (20 กันยายน) นายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกแถลงการณ์ชี้มูลความผิด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) และพวก ใช้อำนาจในทางทุจริต ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ด้วยการจับกุมผู้ต้องหาแล้วบีบบังคับให้ใช้หนี้เจ้าหนี้พนันว่า มติ ป.ป.ช. เป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้ พล.ต.ต.วิชัย, พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ และ ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ โกษยานันท์ มีความผิดจริง ข้อหาการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และกระทำการที่ได้ชื่อว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 8
นายกล้าณรงค์ ระบุว่า ตอนนี้ได้ส่งรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาและอัยการสูงสุดแล้ว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 92 และ 97
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้ทุจริตอย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องการจับกุม แต่ถ้า ป.ป.ช. จะว่าผิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และตนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองเพื่อสู้คดีต่อไปอย่างแน่นอน โดยในวันนี้ (21 กันยายน) เวลา 12.00 น. ตนจะแถลงการณ์ลาออกจากราชการตำรวจด้วย เนื่องจากต้องการแสดงความบริสุทธิ์ ที่สำนักงานจเรตำรวจ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว สามารถจับกุมผู้เล่นการพนันที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาหลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีฆ่าผู้อื่นรายหนึ่งได้ อย่างไรก็ตามเมื่อจับกุมได้ กลับนำตัวผู้ต้องหารายนี้ไปห้องทำงาน พล.ต.ต.วิชัย แทน แทนที่จะส่งมอบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ซึ่งภายในห้องยังมี พ.ต.ท.ศุภกฤช, ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ร่วมเจรจาให้ผู้ต้องหาจ่ายหนี้สินค่าพนัน จำนวน 10 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ทาง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 7) ได้เปิดเผยว่า การลาออกในครั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความคลางแคลงใจต่อสังคม อีกทั้งยังแสดงถึงการไม่ยึดติดกับตำแหน่งที่มีอยู่ รวมถึงภาพลักษณ์และลดปัญหาของตนต่อองค์กร โดยหลังจากนี้จะมีการยื่นฟ้องดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่ทำเสื่อมเสียชื่อเสียงและขอต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิชัย ยังกล่าวถึงการทำงานของ ป.ป.ช. ว่า เป็นระบบที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากรับฟังข้อมูลจากผู้ร้องเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่รับฟังการโต้จากผู้ถูกร้อง จึงทำให้เกิดความท้อแท้ต่อระบบงานขององค์กรอิสระ ส่วนหลังจากการลาออกนั้น จะไปเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายบริษัท และทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งจะลงเล่นการเมืองหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
