กระทรวงเกษตรฯ นำสื่อเยี่ยมชม โครงการตามพระราชดำริฯ สระแก้ว ปราจีนบุรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงเกษตรฯ จัดงานสื่อสัญจรครั้งที่ ๒ 'จากความไม่มั่นคงสู่ความมั่นคง ด้วยงานพัฒนาเกษตรกรรม' เยี่ยมชมโครงการตามพระราชดำริฯ สระแก้ว ปราจีนบุรี เพื่อเป็นแบบอย่างของการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เมื่อวันที่ 17 และ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ศูนย์ประสานงานโครงการตามพระราชดำริฯ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ศึกษาดูงานโครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขา จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดปราจีนบุรี ตามพระราชดำริ ภาพใต้ชื่อ "จากความไม่มั่นคงสู่ความมั่นคง ด้วยงานพัฒนาเกษตรกรรม" โดยมี นายชวลิต ชูขจร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสุภาพร ศิริกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสายเมือง วิริยศิริ ที่ปรึกษาศูนย์ประสานงานโครงการตามพระราชดำริฯ และ นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้การต้อนรับ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน จึงทรงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวขึ้น โดยจัดตั้งโครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัดปราจีนบุรี ตามพระราชดำริ อีกทั้งยังทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาไว้ 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาทางด้านจิตใจของราษฎร ปลูกฝังให้มีความขยัน รู้จักพึ่งพาตนเอง มีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจพัฒนาหมู่บ้าน การยึดมั่นในศีลธรรมอันดี การพัฒนาทางด้านความรู้การประกอบอาชีพ โดยแนะนำส่งเสริมเทคนิคการผลิตทางการเกษตรสมัยใหม่ที่เหมาะสมกับลักษณะภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น และ การจัดสรรที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำด้วยระบบชลประทานโดยทำฝายอ่างเก็บน้ำ คลอง ลำธารให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ในการบริโภค และการเกษตร รวมถึงป้องกันการบุกรุกทำลายป่า และฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นต้นน้ำลำธาร
โครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขา มีการดำเนินการในด้านการปรับปรุงดิน และสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ราบเชิงเขา จังหวัด ปราจีนบุรี (สระแก้ว) อีกทั้งยังส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างสิ่งสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การจัดสรรที่ดิน การจัดระบบการผลิตและการตลาดในรูปสหกรณ์ให้เป็นไปอย่างครบวงจร โดยอาศัยความร่วมมือกันระหว่าง ฝ่ายพลเรือนที่เป็นประชาชนในพื้นที่ ฝ่ายทหารในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ชายแดนตะวันออก และ ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ให้การสนับสนุน จนสำเร็จออกมาเป็นรูปแบบการดำเนินงานมากมาย อาทิ การทำระบบชลประทานแบบหมุนเวียน ระหว่างอ่างเก็บน้ำช่องกล่ำบน อ่างเก็บน้ำช่องกล่ำล่าง และ อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองในฤดูแล้ง โครงการธนาคารโคกระบือ เพื่อให้ราษฎรมีสัตว์เลี้ยงหมุนเวียนเพื่อนำไปใช้การเพาะปลูกทำกิน โรงสีข้าวพระราชทานบ้านคลองทราย ที่เป็นต้นแบบของธนาคารข้าว รวมถึงโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โรงเรียนที่นำความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านมาใช้ในฝึกหัดกระบือเพื่อการทำนาเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ
จากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงนับล่วงเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่พระองค์ทรงพลิกฟื้นดินแดนจากความไม่มั่นคงที่เคยถูกเรียกขานว่าเป็นพื้นที่สีแดงของกลุ่มคอมมิวนิสต์ ขาดความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ สู่ความมั่นคงที่ยั่งยืน ประชาชนอยู่อาศัยด้วยความสามัคคี เข้มแข็ง ไร้ความหวาดกลัว เป็นต้นแบบของการสร้างความสมดุล ที่เริ่มต้นจากการปฏิบัติจริงแล้วขยายผลความสำเร็จไปสู่ชุมชนพื้นที่อื่นได้เป็นอย่างดี