x close

ภาคส่งออก โคม่าหนัก สิงหาคมลดวูบอีก 6.95%





ส่งออกโคม่า ส.ค. ลดฮวบ คลัง หั่นจีดีพีเหลือ 5.5% (ไทยโพสต์)

          ส่งออก โคม่าหนัก สิงหาคมลดวูบอีก 6.95% 8 เดือน เสียดุลการค้าแล้ว 4.6 แสนล้านบาท คลังหั่นจีดีพีเหลือ 5.5% โวฐานะแข็งปั๋ง ทั้งที่ขาดดุลเงินสด 3.6 แสนล้าน  

           เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงตัวเลขการส่งออกประจำเดือนสิงหาคมว่า มีมูลค่าส่งออก 19,750.2 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากคิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 612,324.2 ล้านบาท ลดลง 1.44% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,770.9 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8.78% เช่นกัน หรือคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 661,224 ล้านบาท ลดลง 3.46% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,020.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 39,899.8 ล้านบาท

           สำหรับการส่งออกช่วง 8 เดือน (มกราคม - สิงหาคม) มีมูลค่ารวม 151,559.3 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็นเงินบาท 4.698 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.72% การนำเข้ามีมูลค่า 164,666.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ 5.163 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.86% โดยขาดดุลการค้าทั้งสิ้น 13,107.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 465,102.7 ล้านบาท

           "มูลค่าการส่งออกในเดือนสิงหาคม 2555 ไม่ได้ขี้เหร่ ถือว่าดีแล้วในภาวะที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำแบบนี้ ซึ่งการส่งออกของไทยที่ลดลง ยังดีกว่าหลายประเทศ อย่างอินเดีย ลดกว่า 10%, อินโดนีเซียลด 7.3%, มาเลเซียลด 2%, สิงคโปร์ลด 10.6%,  ไต้หวันลด 4.2% เป็นต้น" นายภูมิ กล่าว และว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จะเป็นประธานหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกในช่วงที่เหลือที่ของปี รวมถึงหามาตรการเสริมอื่น ๆ เพื่อเร่งรัดผลักดันให้มูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้นให้มากที่สุด

           สำหรับมูลค่าการส่งออกในเดือนสิงหาคม ที่ลดลง 6.95% นั้น เป็นการลดลงในหมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรม 18.6% หมวดสินค้าอื่น ๆ ลดลง 19.7% แต่หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.1% ในขณะที่ตลาดส่งออกนั้นลดลงเกือบทุกตลาด  ทั้งตลาดหลักที่ลดลง 13.3%, ตลาดศักยภาพสูงลดลง 8.8% และตลาดศักยภาพระดับรองลด 3.9%

           วันเดียวกัน นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้แถลงถึงการปรับเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2555 ลดลงเหลือ 5.5% โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 5.3 - 5.8% จากก่อนหน้านี้ประเมินอยู่ที่ 5.7% ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวลดลงเหลือ 4.5% จากเดิมที่ 12.8% แต่ยังมีปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างดี ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชนที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโตสูงสุดตั้งแต่ปี 2547 ที่ระดับ 5.2% และการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าเติบโต 14.1% ขณะที่การลงทุนของภาครัฐเติบโต 8.1%

           นายสมชัย กล่าวว่า ปี 2556 ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 5.2% แม้น้อยกว่าปีก่อนหน้า แต่ก็เป็นการเติบโตมากกว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งอยู่ที่ระดับ 5% โดยการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 10.5% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน

           นายสมชัย ยังเผยฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 ว่า มีรายได้ทั้งสิ้น 1,725,342 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 108,944 ล้านบาท ขณะที่การเบิกจ่ายเงินอยู่ที่ 2,067,980 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 83,496 ล้านบาท หรือ 4.2% ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ ที่ 342,638 ล้านบาท และเมื่อรวมกับการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 27,295 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 369,933 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 312,508 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น อยู่ที่ 57,425 ล้านบาท และส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2555 มีจำนวน 463,865 ล้านบาท

           "ฐานะการคลังของรัฐบาลในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับมั่นคงมาก เห็นได้จากเงินคงคลังที่มีอยู่มากกว่า 4 แสนล้านบาท และปีงบประมาณ 2555 การจัดเก็บรายได้จะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะส่งผลให้เงินคงคลังจะอยู่ในระดับกว่า 5 แสนล้านบาท เพียงพอต่อการรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต" นายสมชัย กล่าว


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภาคส่งออก โคม่าหนัก สิงหาคมลดวูบอีก 6.95% โพสต์เมื่อ 26 กันยายน 2555 เวลา 09:12:15 1,181 อ่าน
TOP