ส.ว. ตั้งข้อสงสัย ยอดขายข้าว 7.5 ล้านตันในโครงการจำนำข้าวส่อแววโกหกสีขาว เนื่องจากรัฐไม่ยอมเผยรายละเอียด เล็งเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติเกี่ยวกับโครงการนี้
วันนี้ (8 ตุลาคม) ก่อนการประชุมวุฒิสภา นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลว่า การที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ามีผู้ซื้อข้าวจากรัฐบาลที่ซื้อมาจากนโยบายจำนำข้าวแล้วจำนวน 7.5 ล้านตัน แต่กลับไม่มีรายละเอียดให้ดู โดยอ้างว่าเป็นข้อตกลงที่ทำกับผู้ซื้อเอาไว้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการตรวจสอบการผลิตกระสอบบรรจุข้าวและเรือโดยสารขนส่งที่ใช้ส่งข้าวออกไป ก็ไม่ปรากฏถึงรายละเอียดความเคลื่อนไหว ทั้ง ๆ ที่ความจริง การซื้อข้าวจำนวนมากขนาดนี้ จะต้องมีความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า รัฐบาลโกหกสีขาวอีกแล้ว
ด้านนางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และกลุ่ม 40 ส.ว. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจ้งว่า จะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำใบข้อมูลการส่งสินค้าจ่ายข้าวให้ผู้ซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จำนวน 4-5 มาให้ ทว่าวันถัดมา อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกลับบอกว่ามา ได้ทำสัญญาซื้อข้าวระหว่างรัฐต่อรัฐจำนวน 7.5 ล้านตันจริง เป็นสัญญาที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะติดเงื่อนไขข้อตกลงกับประเทศนั้น ๆ ดังนั้น ตนมองว่า จึงเป็นหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศที่ต้องระบุเองว่า ใครซื้อไปในราคาเท่าใดบ้าง ทว่าก็เงียบไป เรื่องนี้จึงเป็นหลักฐานที่สำคัญอีกอย่างที่แสดงว่า รัฐบาลโกหกสีขาว
ทางด้าน นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวในที่ประชุมสภาว่า โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก็ดำเนินมาครบ 1 ปีแล้ว นับว่าเป็นโครงการที่ดีที่ยกระดับชีวิตของชาวนา อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อบกพร่อง โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต ที่รัฐบาลยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ อีกทั้งกำลังจะเข้าสู่โครงการรับจำนำข้าว พ.ศ. 2556 แล้ว ตนจึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้น เช่น การสวมสิทธิ์ การบริหารสต็อกข้าว และกำหนดให้ชาวนาที่ยากจนจริง ๆ เท่านั้น ที่จะได้รับสิทธิ์ ซึ่งอาจจะกำหนดจากชาวนาที่มีที่นาไม่เกิน 6-20 ไร่เท่านั้นถึงสามารถเข้าร่วมโครงการได้ เป็นต้น
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า สำหรับราคาข้าวไทยที่มีราคาสูงกว่าประเทศผู้ส่งออกข้าวด้วยกันนั้น นับว่าไม่เป็นปัญหา เพราะคุณภาพข้าวไทยเหนือกว่าอยู่แล้ว ราคาจึงเป็นไปตามคุณภาพ อย่างไรก็ดี โครงการรับจำนำข้าว พ.ศ. 2556 ต้องควบคุมคุณภาพข้าวมากขึ้น ด้วยการรีบนำไปอบแห้งหลังจากที่ได้รับข้าวมาแล้ว เพื่อลดความชื้น ไม่ให้ข้าวเสื่อมคุณภาพเร็ว พร้อมกับใส่บรรจุภัณฑ์ ติดบาร์โค้ดสองมิติ ป้องกันไม่ให้ข้าวใหม่ผสมกับข้าวเก่า
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตอนนี้ได้รวมรายชื่อ ส.ว. 75 คน ยื่นต่อประธานวุฒิสภา ขออภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เปิดโอกาสให้ ส.ว. แสดงความคิดเห็นต่อโครงการรับจำนำข้าวแก่คณะรัฐมนตรีและรัฐบาล ด้วยเหตุที่ว่า โครงการนี้ใช้งบประมาณ 1.45 แสนล้านบาทต่อปี ถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงมาก ๆ จึงมีความกังวลในเรื่องปัญหาการทุจริตและอื่น ๆ ตามมา
ด้านนางสาวสุมล กล่าวเสริมว่า รัฐบาลไม่เคยรับฟังเสียงท้วงติงของปัญหาโครงการจำนำข้าวจากบุคคลอื่นเลย ว่ามันเป็นภาระของงบประมาณแผ่นดิน จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ทาง ส.ว. ไม่ได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกับชาวนา เจตนาพวกเราต้องการให้ชาวนามีรายได้มากขึ้น โดยที่ไม่มีผลกระทบอื่น ๆ ตามมาภายหลัง แต่รัฐบาลก็จะบิดเบือนประเด็นให้ทาง ส.ว. มีปัญหากับชาวนาให้ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
