x close

จนท.รับตัวพ่อถูกขังไปบำบัด - ลูกเผย พ่ออยู่ร่วมกับเมียลำบาก







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
 โพสต์โดย CiNNtv3
 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


          เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข้าช่วยเหลือ นายอำพล ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ถูกขังลำพังในบ้านมาบำบัดรักษาแล้ว ขณะลูกชาย เผย ไม่มีเวลาดูแล และพ่ออยู่ร่วมกับเมียไม่ได้

          สืบเนื่องจากข่าวสุดสลดกรณีที่พบ นายอำพล ภาคสุโพธิ์ ชายลำปางวัย 63 ปี เป็นอดีตข้าราชการบำนาญของหน่วยงานแห่งหนึ่ง ถูก นายศักดา หรือโอ๋ ลูกชายขังให้อยู่ในบ้านเพียงลำพังนานกว่า 7 ปีแล้ว โดยเจาะช่องไว้สำหรับโผล่ศีรษะออกมาดูคนภายนอกได้เท่านั้น โดยจะนำข้าวน้ำมาให้ในช่วงเย็นตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

          ล่าสุด วานนี้ (17 ตุลาคม) นายสมชาย อำพันกาญจน์ และนายพรนิมิตร สายเทพ ปลัดอำเภอเมืองลำปาง พร้อมพยาบาล รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ และพยาบาล รพ.ลำปาง, จนท.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านม่วงแงว, ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ประจำหมู่บ้านบ้านดงสันเงิน เดินทางไปตรวจร่างกายเบื้องต้นแก่ นายอำพล ภาคสุโพธิ์ อายุ 63 ปี ที่ถูกลูกขังไว้ภายในบ้านเลขที่ 550 ม.15 บ.ดงสันเงิน ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง

          โดยเจ้าหน้าที่ต้องทุบลูกกุญแจที่ปิดล็อกประตูหน้าบ้านออก เนื่องจากนายศักดา หรือโอ๋ บุตรชาย บอกว่าไม่มีกุญแจไข หลังจากนั้นจึงพานายอำพลออกมานั่งที่ระเบียงหน้าบ้าน ก่อนที่นายอำพลจะบอกว่าหิวข้าวอยากกินลาบเนื้อ นายโอ๋ลูกชายจึงได้ออกไปซื้อและป้อนอาหารให้พ่อ เมื่อแพทย์มาถึงจึงได้เข้าตรวจร่างกายพบว่ามีความดันสูงเล็กน้อย

          ทางด้าน นางภรภัทร์ สิมะวงค์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ญาติเคยพานายอำพลไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2554 แพทย์ให้ยาเกี่ยวกับความจำเสื่อม และยาเกี่ยวกับจิตแบบอ่อน ๆ มาให้กิน หลังจากนั้นผู้ป่วยก็ไม่ได้ติดต่อทางโรงพยาบาลอีกเลย ซึ่งอาการแบบนี้ยังสามารถที่จะรักษาอาการได้ แต่ที่เป็นแบบนี้เนื่องจากขาดยาหรือกินยาไม่ต่อเนื่อง สาเหตุหลัก ๆ คือการขาดความเอาใจใส่ดูแล หากมีคนดูแลอย่างดีก็จะบรรเทาให้กลับดีขึ้นมาได้บ้าง

          ขณะที่ นายศักดา ลูกชาย ได้เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ตนเองจะเป็นคนดูแลพ่อ ส่วนพี่สาว คือ เอ - อภิญญา ภาคสุโพธิ์ จะอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาตนไม่ได้ทิ้งพ่อ แต่ไม่มีเวลามาอยู่ด้วยเท่านั้น และเพิ่งนำพ่อมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้เพียง 1 ปีเศษ ไม่ใช่ 7-8 ปีอย่างที่เป็นข่าว โดยก่อนหน้านี้พ่อทำงานอยู่ที่กรมทรัพยากรธรณี ที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากที่พ่อมีความผิดปกติทางสมอง หลง ๆ ลืม ๆ ซึ่งขณะนั้นอายุประมาณ 58 ปี ทางกรมฯ จึงโทรศัพท์บอกให้ญาติเดินทางไปรับตัวกลับมารักษาที่บ้าน โดยตนก็นำพ่อมาอยู่ด้วยที่ จ.ลำปาง

          เมื่อมาถึงบ้านที่ลำปาง ซึ่งตนมีครอบครัวและลูกแล้ว อีกทั้งต้องไปอาศัยอยู่บ้านญาติของภรรยา แต่พ่อมักจะส่งเสียงดังจนภรรยาของตนเองกลัว และจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้พาพ่อมาอยู่บ้านหลังดังกล่าว และจะเอาข้าวมาให้พ่อทุกวัน ๆ ละ 1 ครั้ง และมาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านสัปดาห์ละครั้ง สำหรับค่าใช้จ่ายในการหาอาหารมาให้พ่อก็มาจากเงินบำนาญของพ่อที่ได้รับเดือนละประมาณ 8,000 กว่าบาท ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีของพ่อ แต่ตนจะเป็นคนไปกดเงินผ่านทางตู้เอทีเอ็มมาใช้จ่ายและเลี้ยงดูพ่อ ส่วนเรื่องที่นอนตนซื้อเตียงผ้าใบมาให้ พ่อก็ทำพัง ซื้อที่นอนมาให้ก็ฉี่ใส่ ต้องเอาออกไปทิ้งไว้ข้างนอก

          และเมื่อถามว่าหากหมอรักษาพ่อให้อาการดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พูดจารู้เรื่องแล้วจะสามารถนำพ่อไปอยู่ด้วยได้หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ไม่สามารถพาพ่อไปอยู่ด้วยได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ภรรยากับพ่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ และปัจจุบันบ้านที่ตนเองอยู่ก็ต้องอาศัยญาติของภรรยาจึงเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่เบื้องต้นรู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและจะดูแลพ่ออย่างดีต่อไป 




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จนท.รับตัวพ่อถูกขังไปบำบัด - ลูกเผย พ่ออยู่ร่วมกับเมียลำบาก โพสต์เมื่อ 18 ตุลาคม 2555 เวลา 08:30:47 2,176 อ่าน
TOP