เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพจาก Aspen Photo / Shutterstock.com
ป.ป.ส. เผย ปัจจุบันมีคนไทยตกเป็นทาสยาไอซ์ถึง 7 หมื่นคน และคาดการณ์ว่า อีก 5 ปี จะทะลุถึง 5 แสนคน ขณะที่ในปี 2556 คาดว่า ยอดผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.2 ล้านคน เป็น 1.9 ล้านคน
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ พร้อมทั้งมอบนโยบายในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในพื้นที่ ประจำปี 2556 ให้แก่หน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยมี นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี 2556 เข้าร่วมด้วย
โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อรวมพลังในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาคุกคามร้ายแรงด้านความปลอดภัยของประชาชน โดยมุ่งเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่
1. การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหายาเสพติดเขตละ 1 ชุมชน และขยายไปยังชุมชนอื่น ๆ รวมถึงจัดโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดินกรุงเทพมหานคร2. เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในชุมชน ให้ประชาชนร่วมเฝ้าระวัง ดูแล สอดส่อง อีกทั้งพัฒนาทหารกองหนุนที่ปลดประจำการให้เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติด3. ป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัด กทม. และควบคุมพื้นที่ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่แพร่ระบาดของยาเสพติดรอบสถานศึกษา4. ป้องกันและแก้ไขผู้ติดยาเสพติด โดยให้มีการติดตามดูแล ช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษา ตลอดจนส่งเสริมการฝึกอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติทั้งนี้ นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันน่าเป็นห่วง เพราะการระบาดของยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยพบว่า ปัจจุบันมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดประมาณ 1.2 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านคน ในปี 2556 นอกจากนี้ ยังพบว่า ยาเสพติดที่ระบาดมากที่สุด คือ ยาไอซ์ โดยมีตัวเลขผู้เสพปัจจุบันอยู่ที่ 70,000 คน ประกอบกับผู้ค้าได้ปรับราคาของยาดังกล่าวให้ถูกลง ส่งผลให้ผู้เสพเข้าถึงยาได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาชนิดนี้มากถึง 500,000 คน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
