เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ศาลฎีกาสั่งประหาร สุขุม เชิดชื่น อดีต ส.ว. จ้างวานฆ่า พญ.นิชรี มะกรสาร วิสัญญีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อปี 2539 ส่วนพวกอีก 3 คน ถูกจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ตุลาคม ศาลอาญารัชดาได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธนศักดิ์ หรือ ใหม่ ยิ้มดี อายุ 35 ปี, นายสราวุธ หรือ ตั๊ก ไชยสิงห์ อายุ 34 ปี, นายชัชพัฒน์ หรือ เซ้ง กิตติธนากร (เสียชีวิตศาลสั่งจำหน่ายคดี), นายวิเชียร หรือ ม่อน กิตติธนากร อายุ 47 ปี และ นายสุขุม เชิดชื่น อดีตสมาชิกวุฒิสภา อายุ 50 ปี จำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานจ้างวาน ใช้ และร่วมกันฆ่า พ.ญ.นิชรี มะกรสาร วิสัญญีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน และใช้เอกสารราชการปลอม
ทั้งนี้ ภายหลังที่ศาลฎีกาได้พิเคราะห์พยานหลักฐานต่าง ๆ แล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คือ ให้ประหารชีวิต นายสุขุม เชิดชื่น อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้จ้างวานฆ่า ส่วนจำเลยที่เหลือให้คงโทษจำคุกตลอดชีวิต
สำหรับคดีดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2539 โดย นายสุขุม ได้จ้างวาน นายวิเชียร จำนวน 500,000 บาท ให้ไปจัดหาทีมมือปืนไปลอบยิง พ.ญ.นิชรี จนเสียชีวิต ขณะเดินทางออกจากบ้านพัก ย่านห้วยขวาง ไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งสาเหตุเกิดจาก นายสุขุม มีความขัดแย้งกับ พ.ญ.นิชรี หลายเรื่อง ทั้งเรื่องการบริหารโรงเรียนโรจน์เสรีอนุสรณ์ ความขัดแย้งเรื่องซื้อที่ดิน ใน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เนื้อที่ 100 ไร่ เพื่อทำสนามกอล์ฟ รวมทั้งเรื่องการขัดแย้งธุรกิจขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสอง และรับทวงหนี้ จนมีคดีความฟ้องร้องกันในศาลแพ่งและอาญาหลายคดี
ต่อมา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ประหารชีวิต นายสุขุม เชิดชื่น จำเลยที่ 5 ในฐานะผู้จ้างวาน พร้อมกับสั่งจำคุกจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ไว้ตลอดชีวิต ซึ่งภายหลัง จำเลยทั้ง 4 คน ได้ยื่นอุทธรณ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทำให้จำเลยทั้ง 4 ยื่นฎีกา และในที่สุด วันนี้ (25 ตุลาคม) ศาลฎีกาก็พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยตัดสินให้ประหารชีวิตนายสุขุม และจำคุกจำเลยที่เหลือตลอดชีวิต
สำหรับนายสุขุม เชิดชื่น ในขณะนั้น นอกจากจะเป็นส.ว.หนุ่มผู้มีอนาคตไกลแล้ว เขายังเป็นนักธุรกิจระดับกลาง ประกอบกิจการร้านอาหารและมีโครงการพัฒนาที่ดินหลายแห่ง ที่สำคัญคือได้รับการสนับสนุนผลักดันจากครอบครัวนักธุรกิจชื่อดัง ส่งวัตถุดิบให้โรงงานผลิตถุงมือยางไปยังประเทศเยอรมนีและอังกฤษ ก่อนจะหันมาร่วมทุนก่อตั้งโรงงานผลิตถุงมือยางสัดส่วนการถือหุ้นครึ่งต่อครึ่ง 1 ปี ส่วน สำหรับชีวิตส่วนตัวของนายสุขุมนั้นนั้นค่อนข้างมีประวัติเลือนลางและสับสน มีที่มาจากหลายแหล่ง โดยไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจน ตลอดจนประวัติการศึกษาก็ดูจะขัดแย้งกัน เพราะแต่ละแหล่งข่าวให้ข้อมูลไม่ตรงกันเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
