เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กองจราจรวางมาตรการรับมือจราจรช่วงเปิดเทอม ระดมตำรวจเต็มพื้นที่ ห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามขาด จนกว่าสภาพจราจรจะคลี่คลาย ตลอดจนการอบรมกดสัญญาณไฟ ประสาน รฟท. ขอใช้พื้นที่ระบายรถ เปิดเซฟตี้โซนเยาวราช ชี้รถวิ่งสวนคู่ขนานลอยฟ้าแก้รถติดได้ดี
วันนี้ (25 ตุลาคม) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร ประชุมมาตรการรับมือการจราจรในเวลาเช้าชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงโรงเรียนเปิดเทอม โดยสั่งกำชับไปยังตำรวจจราจรทุกหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลลงพื้นที่ดูแลอำนวยความสะดวกและจัดการจราจรหน้าโรงเรียนที่มีปัญหาช่วงเปิดเทอมให้ระดมกำลังตำรวจเต็มพื้นที่ ห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามขาด จนกว่าสภาพการจราจรจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีโรงเรียนใน กทม. เปิดเทอมพร้อมกัน 1,200 แห่ง ดังนั้น ตำรวจต้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติจราจรเปิดเทอมอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะ 6 ถนนสายหลัก และถนนหน้าโรงเรียน 22 แห่งที่มีปัญหา เช่น โรงเรียนราชินีบน โรงเรียนเซนต์คาเบียล โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ โรงเรียนมาแตร์เดอี โรงเรียนเซนต์ดอมินิก โรงเรียนวัฒนา เป็นต้น และโดยเฉพาะช่วงเช้าชั่วโมงเร่งด่วน 06.30- 08.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนออกจากบ้านมาทำงานในช่วงเดียวกับที่นักเรียนไปโรงเรียน
สำหรับมาตรการในการแก้ไขปัญหาการจราจรช่วงเปิดเทอม เช่น จะมีการจัดอบรมการกดสัญญาณไฟจราจรแก่ตำรวจจราจรผู้ปฏิบัติหน้าที่ก่อนถึงวันเปิดเทอม เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาการจราจรช่วงเปิดเทอมได้ด้วยการเร่งระบายรถตั้งแต่เช้ามืดไม่ให้เกิดปริมาณรถตกค้าง นอกจากนี้ ในทุกวันหลังช่วงเร่งด่วน จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง บก.น.1-9 หารือการแก้ปัญหาการจราจร ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ ได้ชี้แจงในที่ประชุมถึงจุดที่เป็นปัญหาการจราจรติดขัดสาหัส 3 จุดถนนสายหลักในพื้นที่ คือ ถนนพหลโยธิน ช่วงหน้าธนาคารทหารไทย ต้องขยายช่องจราจรเพิ่ม เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วนมีรถประจำทางผ่านจุดดังกล่าวถึง 40 สายต่อชั่วโมง ส่งผลให้การจราจรติดขัดต่อเนื่องในถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว วิภาวดีรังสิต ทั้งนี้ได้ประสาน รฟท.ขอใช้พื้นที่ราบเพื่อระบายรถ
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ร่วมปล่อยแถวรถสายตรวจ ตำรวจนครบาล ตำรวจท่องเที่ยว สุนัขตำรวจ K9 เจ้าหน้าที่เทศกิจโครงการ safety zone แห่งที่ 2 และตรวจศูนย์ควบคุมการปฏิบัติส่วนหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลในวัดไตรมิตร เพื่อดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และลดปัญหาอาชญากรรมเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ จะมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในเซฟตี้โซนถนนเยาวราช พร้อมทั้งกำลังตำรวจ สายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์จากกองกำกับการตำรวจนครบาล 6 และกำลังเสริมจาก 191 และตำรวจม้าเข้ามาตรวจให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
ในขณะที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) ได้รายงานผลคืบหน้าการทดลองจัดช่องทางพิเศษหรือรีเวิร์สซิเบิลเลน ฝั่งขาเข้าบนทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี โดยเริ่มทดลองใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาเตรียมรองรับเปิดเทอมจากแยกบรมราชชนนีถึงแยกผ่านพิภพ เพิ่มอีก 1 ช่องทาง จากเดิมเริ่มที่ทางขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าระหว่างเวลา 07.00-08.30 น. ซึ่งผลการทดลองตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมาในภาพรวมไม่มีปัญหาสามารถช่วยลดความแออัดบริเวณเชิงทางขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้มาก
นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งสัญญาณไฟราวเพิ่มเติมบนทางคู่ขนานเพื่อแจ้งการปรับเปลี่ยนช่องทางเดินรถให้ผู้ใช้ทางได้ทราบ เป็นการป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับช่วงเย็น บนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชนนี จะจัดช่องทางพิเศษระบายรถรถฝั่งขาออกตั้งแต่ลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตลอดแนวเส้นทางถึงทางลงถนนพุทธมณฑลสาย 3 ตั้งแต่เวลา 16.30-18.00 น. ควบคู่กันไปเพื่อเร่งระบายรถทั้งขาเข้าช่วงเช้าชั่วโมงเร่งด่วนและขาออกช่วงเย็น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
