เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
นักวิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคาม แถลงค้นพบฟอสซิลปลาดึกดำบรรพ์ชนิดใหม่ของโลกอายุกว่า 150 ล้านปี อีสานอิกธิส เลิศบุศย์ศี ที่ภูน้อย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการค้นพบนี้ช่วยให้การแยกสายพันธุ์ปลากระดูกแข็งชัดเจนขึ้น
วันนี้ (30 ตุลาคม) ผศ.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย นายวราวุธ สุธีธร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, นางสาวอุทุมพร ดีศรี นักวิจัยสาขาบรรพชีวินวิทยา และผู้ค้นพบปลาดึกดำบรรพ์ชนิดใหม่ของโลก ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการค้นพบฟอสซิลปลาในยุคจูราสสิค ชื่อ "อีสานอิกธิส เลิศบุศย์ศี" ซึ่งมีอายุกว่า 150 ล้านปี พบที่ภูน้อย ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
นางสาวอุทุมพร แถลงว่า การค้นพบอีสานอิกธิส เลิศบุศย์ศี (Isanichthys lertboosi) ซึ่งเป็นปลากระดูกแข็ง มีความยาวตั้งแต่ 30-90 เซนติเมตร โดยมีลักษณะฟันเรียงกันเป็นแท่งดินสอ พ่วงด้วยขากรรไกรที่แข็งแรงทรงพลัง ฟันอันแหลมคม เป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ได้ว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาประเภทนักล่าโดยแท้ และนับได้ว่าเป็นฟอสซิลปลาชนิดที่ 2 ในตระกูล อีสานอิกธิส ที่ค้นพบในประเทศไทย ทั้งนี้ ใน พ.ศ. 2549 ได้มีการค้นพบฟอสซิล อีสานอิกธิส พาลาสทิส มาแล้ว
สำหรับชื่อ อีสานอิกธิส เลิศบุศย์ศี ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ในขณะนั้นที่เป็นคนสำคัญในการผลักดันการขุดหาซากฟอสซิลที่ภูน้อย ดำเนินการมาได้อย่างราบรื่น พร้อมกับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ด้านวิชาการสาธารณูปโภคฯ อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน นายเลิศบุศย์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
ทั้งนี้ทั้งนั้น จุดเริ่มต้นของโครงการสำรวจฟอสซิลที่ภูน้อย เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2551 โดยนายทองหล่อ นาคำจันทร์ ชาวบ้าน ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ค้นพบฟอสซิลเกล็ดปลา แล้วได้มอบต่อให้นักวิจัยจากกรมทรัพยากรธรณีและศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กระทั่งเกิดโครงการสำรวจนี้ขึ้น ทำให้สามารถค้นพบตัวอย่างฟอสซิลปลากระดูกแข็งจำนวน 4 ตัวอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะส่วนกะโหลกและฟัน ที่ช่วยให้แยกชนิดของสายพันธุ์เป็นชนิดใหม่ของโลกได้
ผลจากการค้นพบฟอสซิลใหม่ครั้งนี้ ทำให้ปริศนาเกี่ยวกับสายพันธุ์ปลากระดูกแข็ง ได้รับการไขให้กระจ่างมากขึ้น เดิมทีปลากระดูกแข็งโบราณที่ไม่สามารถแยกกลุ่มได้ จะถูกนำเข้าไปรวมกับสกุล เลปิโดเทส แต่เมื่อค้นพบสายพันธุ์อีสานอิกธิส ทำให้สามารถนำ เลปิโดเทส ลูชิวเอสซิส และ เลปิโดเทส ลาติฟรอนส์ มาไว้ในกลุ่มอีสานอิกธิสเป็น อีสานอิกธิส ลูชิวเอสซิส และอีสานอิกธิส ลาติฟรอนส์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก