ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อาร์เอสส่งหนังสือค้าน กสทช. บังคับถ่ายฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล เผยเป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลจึงไม่สามารถให้ผู้ประกอบการรายอื่นนำไปใช้ประโยชน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 และร่างประกาศหลักเกณฑ์รายการสำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เป็นการทั่วไป โดยหนึ่งในเจ็ดประเภทรายการโทรทัศน์ที่อยู่ในข้อบังคับนี้คือ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ทางบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้สิทธิ์จากทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) นั้น
ล่าสุด นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อาร์เอส ได้ส่งจดหมายคัดค้านไปยัง กสทช. เพราะมองว่าหลักเกณฑ์นี้ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง และจะนำมาซึ่งปัญหาและความวุ่นวายอีกมากมาย ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซ้ำยังเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการแบบใช้คลื่นความถี่ เพราะเสมือนเป็นการบังคับให้ทางอาร์เอส ซึ่งได้รับสิทธิการถ่ายทอดฟุตบอลโลกจากฟีฟ่า ต้องไปซื้อเวลาการถ่ายทอดจากผู้ประกอบการที่ใช้คลื่นความถี่ทั้งที่มีสถานีของตนเองอยู่แล้ว แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อผู้ประกอบการแบบใช้คลื่นความถี่ได้รับสิทธิการถ่ายทอดมาก็สามารถเผยแพร่ผ่านสถานีของตนเองได้ โดยไม่ต้องซื้อเวลาถ่ายทอดจากใคร
ทั้งนี้ ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2014 รอบสุดท้าย (FIFA WORLD CUP 2014 FINAL) ที่ทางอาร์เอสได้รับสิทธิ์มาจากฟีฟ่านั้น ไม่ใช่รายการที่เป็นลิขสิทธิ์ของรัฐ หรือสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน หากแต่เป็นลิขสิทธิ์ของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นบุคคลที่มิได้อยู่ภายในราชอาณาจักรไทย และภายใต้บังคับของกฎหมายไทย อาร์เอส ในฐานะผู้ได้รับสิทธิจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ฟีฟ่าบังคับใช้กับทุกประเทศทั่วโลก ข้อกำหนดหรือข้อบังคับดังกล่าวของ กสทช. จึงเป็นการกระทบถึงสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ (รวมถึงสิทธิของผู้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์) อันเป็นการออกกฎที่ไม่เป็นมาตรฐานสากล และไม่เคารพต่อกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และจะไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ
นอกจากนี้ ยังจะทำให้เกิดผลเสียแก่ประชาชนส่วนรวม เพราะต่อไปจะไม่มีเอกชนรายใดลงทุนประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดรายการต่าง ๆ ดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อประชาชนอีก เนื่องจากความไม่แน่นอนของหลักเกณฑ์การเผยแพร่ที่ไม่เป็นหลักสากล นอกเสียจาก กสทช. หรือ ภาครัฐ หรือผู้ให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่ จะเป็นผู้ยอมลงทุนจ่ายค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์เสียเอง ประชาชนจึงจะมีโอกาสรับชมการถ่ายทอดดังกล่าวได้ ส่วนผู้ที่ให้บริการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่คงต้องจะถูกลดทอนโดยข้อกำหนดดังกล่าว
สำหรับกรณีนี้ ทางอาร์เอส ได้รับสิทธิ์การเผยแพร่การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2014 รอบสุดท้าย มาล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี การออกข้อกำหนดจึงไม่ควรมีผลย้อนหลัง อันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการ และอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจาก กสทช. และ/หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการฟ้องร้องให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางอาร์เอส ไม่เห็นด้วยกับประกาศฉบับนี้ เพียงในส่วนของการกำหนดรายการโทรทัศน์ที่ต้องให้บริการเป็นการทั่วไป โดยไม่มีหลักเกณฑ์การพิจารณาที่ชัดเจนและเหมาะสมเท่านั้น คือ ไม่แน่ใจว่า กสทช. ใช้เกณฑ์อะไร ทำไปเพื่อใคร และได้คำนึงหรือไม่ ว่าอาจจะเกิดความเสียหาย และความวุ่นวายตามมาได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
