x close

รวบได้ 1 ทีมอุ้ม ผอ. ซี 8 เผยให้ที่กบดาน-รับส่วนแบ่ง 1 หมื่น

ออกหมายจับ! น้องเขย อุ้ม ผอ. ซี 8 ชี้ ฉุนเป็นตัวการหย่า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ออกหมายจับ! น้องเขย อุ้ม ผอ.กองงานส่งเสริมวัฒนธรรม หลังพบเบาะแสกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ด้านคนขับรถเผย น้องเขย ฉุนเป็นตัวการหย่า ล่าสุดจับกุมคนร้ายได้ 1 คนแล้ว เผย เป็นคนให้ที่กบดาน ได้รับส่วนแบ่ง 1 หมื่นบาท

          จากกรณีที่กลุ่มคนร้าย 3 คน ได้บุกอุ้ม นางสาวเพลินตา ประดับสุข อายุ 56  ปี ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก (ข้าราชการ ระดับ 8) ไปจากบ้านพักเลขที่ 459/470 หมู่ที่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยได้บังคับให้นางสาวเพลินตา พาขึ้นรถยนต์โตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ซึ่งเป็นรถของนางเพลินตา ก่อนที่จะขับหลบหนีไปเมื่อบ่ายวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

          ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว วานนี้ (4 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายจับคนร้ายแล้ว คือ นายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นน้องเขยของ นางสาวเพลินตา ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การตรงกันว่า ในวันเกิดเหตุเห็นนายกิตติศักดิ์ลงมาพูดคุยกับนางสาวเพลินตา ก่อนถูกอุ้มตัวไป


          เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้จัดชุดเฉพาะกิจไว้แล้ว เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ นอกจากนี้ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจในทุกเขตพื้นที่ และพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด ให้ทำการตั้งด่านตรวจค้นรถที่คนร้ายพา นางสาวเพลินตา หลบหนีไปด้วย อีกทั้งยังได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของ นางสาวเพลินตา หากมีความเคลื่อนไหวให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในช่วงค่ำของวันที่ 3 พฤศจิกายน มีการเบิกถอนเงินของนางสาวเพลินตาจากตู้เอทีเอ็มไปจำนวน 4 หมื่นบาท ในพื้นที่ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจดูกล้องวงจรปิด ก็พบว่า นางสาวเพลินตาพร้อมชายฉกรรจ์ 2 คน ลงมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าว

          ด้านนายชัยพร ทองประดิษฐ์ อายุ 27 ปี คนขับรถและคนดูแลบ้านพัก ของนางสาวเพลินตา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณกลางปี 2554 นางสาวเพลินตาได้ให้ตนขับรถไปรับ นางธิดา ประดับสุข น้องสาว ที่เป็นครูอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มาดูแลที่บ้านพัก กระทั่งต่อมานางธิดาเสียชีวิต และนางสาวเพลินตา ได้เป็นคนดูแลจัดการเรื่องเงินมรดกที่มีอยู่เกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งนางสาวเพลินตา เคยเล่าให้ตนฟังบ่อย ๆ ว่า นายกิตติศักดิ์ น้องเขย สามีของนางธิดา เคยพูดอาฆาตเอาไว้หลายครั้งว่า นางสาวเพลินตาเป็นต้นเหตุให้ทั้งสองคนต้องหย่าร้างกัน ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว









           อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (5 พฤศจิกายน)  ทางชุดสืบสวนสามารถจับกุมหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมทีมอุ้มได้ 1 คน คือ นายพัฒนา บริการ อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำหน่วยพิทักษ์ป่านาล้อม อำเภอชาติตระการ

           โดยเบื้องต้น นายพัฒนา รับสารภาพว่า รู้จักกับหนึ่งในแก๊งคนร้าย ที่ชื่อว่า "นายเอก" แต่ไม่ทราบนามสกุล ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุนายเอกได้โทรศัพท์มาหาว่า จะพาคนไปพักค้างคืน ให้ช่วยหาที่พักให้ ตนจึงไปเตรียมบ้านพักของหน่วยป่าไม้บ้านดง ต่อมาเวลาประมาณบ่ายโมง ของวันที่ 3 พฤศจิกายน นายเอกก็ได้พาเพื่อนชายมาอีก 2 คน และหญิงสาวอีก 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวเพลินตา

          นายพัฒนา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนายเอกก็ได้พานางสาวเพลินตาไปกักขังไว้ในบ้านพัก โดยนายเอกบอกว่า จับนางสาวเพลินตามาเพื่อเรียกทรัพย์สิน ก่อนที่จะเอาบัตรเอทีเอ็มของนางสาวเพลินตาออกไปกดที่ตู้จำนวน 40,000 บาท และนำมาแบ่งให้ตนจำนวน 10,000 บาท  ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ในวันเดียวกันนั้น นายเอกและเพื่อนได้พานางสาวเพลินตาออกไปจากบ้านพักของตน ซึ่งตนทราบเพียงว่าจะมุ่งหน้าไป จ.กำแพงเพชร จนกระทั่งตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสอบสวนในที่สุด

         พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวน ได้นำรูปของนายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ หัวหน้าทีมอุ้ม ซึ่งเป็นน้องเขยของนางสาวเพลินตา พร้อมรูปถ่ายของผู้ต้องหาอีก 2 คน มาให้นายพัฒนายืนยัน ซึ่งนายพัฒนาสามารถยืนยันได้ตรง ทางตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับผู้ต้องเพิ่มต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง และคาดว่านางสาวเพลินตายังคงปลอดภัย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวบได้ 1 ทีมอุ้ม ผอ. ซี 8 เผยให้ที่กบดาน-รับส่วนแบ่ง 1 หมื่น โพสต์เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา 11:25:58 1,270 อ่าน
TOP