พงษ์ศักดิ์ เผย เตรียมอัดงบ 5 พันล้านบาท หนุนแอลพีจีภาคครัวเรือนรายปี แก่กลุ่มคนยากจนและผู้ประกอบการ โดยใช้ฟรี 6 กิโลกรัมต่อเดือน เนื่องจากเตรียมลอยตัวราคาก๊าซในปีหน้า
เมื่อวานนี้ (5 พฤศจิกายน) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เข้าทำงานเป็นวันแรก พร้อมกับเปิดเผยนโยบายที่เตรียมทำในเร็ว ๆ นี้ว่า จะดูแลในเรื่องราคาของก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในส่วนของแอลพีจีครัวเรือนมากเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงการตรึงราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม จะตรึงไว้ถึงสิ้นปี พ.ศ. 2555 เท่านั้น เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ จะขึ้นราคาตามต้นทุน แล้วจะส่งผลต่อคนยากจน คนหาเช้ากินค่ำมาก ด้วยเหตุนี้จึงได้มอบหมายให้นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ทำข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบและมาตรการการช่วยเหลือ
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลมาว่า งบประมาณที่ใช้อุดหนุนราคาแอลพีจีแบบครัวเรือน ไม่น่าจะเกิน 5 พันล้านบาทต่อปี โดยสามารถแบ่งให้ความช่วยเหลือต่อบุคคล 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่ยากจน ได้รับค่าไฟฟรีไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนจากรัฐบาลอยู่ มีจำนวนทั้งหมด 4 ล้านครัวเรือน โดยบุคคลกลุ่มนี้ใช้ก๊าซเดือนละ 6 กิโลกรัมต่อครัวเรือน รัฐบาลอุดหนุนราคาที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม รัฐก็จะใช้งบประมาณทั้งหมด 2,880 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งคือ ผู้ประกอบการ คาดว่าน่าจะใช้งบประมาณอุดหนุน 2 พันล้านบาทต่อปี
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ด้วยวิธีการนี้ จะทำให้ลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเงินที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันเบนซินลดลง จากปัจจุบันที่อุดหนุนทั้งระบบราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งแนวทางการอุดหนุนจะใช้บัตรเครดิตพลังงานที่มีอยู่ ทว่าแอลพีจีจะไม่ให้ส่วนลดทันที ให้จ่ายเต็มราคาก่อนแล้วคืนเงินผ่านบัตรภายหลัง
นอกจากนี้ นายพงษ์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ทางกระทรวงมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน โดยจะเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศเป็น 90 วัน จากปัจจุบันสำรองเฉพาะภาคเอกชน 36 วันเท่านั้น ในรายละเอียดของแผนการคือ การศึกษาการสร้างท่อส่งน้ำมันระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทย เป็นหนึ่งในโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงทะเลอันดามันและอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การศึกษาเรื่องนี้ ไม่ได้ฟื้นโครงการแลนด์บริดจ์อย่างแน่นอน แต่นำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์เท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
