x close

ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5 ชี้ผู้ตายขับย้อนศรลงตึก ไม่เกี่ยวกลไกรถ


ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5

ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

             เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจรถเชฟโรเลตป้ายแดงพุ่งตกชั้น 5 ตึกรสา ชี้ผู้ตายขับรถประมาทเอง ขับวนรถย้อนศรทางลงตึก ไม่เกี่ยวกับกลไกรถผิดพลาด

             จากกรณีที่ นางสาวกอบกาญจน์ วิชรัตน์ อายุ 43 ปี ผู้จัดการฝ่ายอะไหล่ บริษัท เชฟโรเลต (ประเทศไทย) ขับรถเก๋งยี่ห้อ เชฟโรเลต สีขาว รุ่นครูซ ทะเบียนป้ายแดง ศ-2453 กทม. ตกลงมาจากลานจอดรถชั้น 5 อาคารรสา ทาวเวอร์ ซอยพลหลโยธิน 19 จนเสียชีวิตอย่างปริศนา ไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

             ล่าสุด วานนี้ (6 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากบริษัทเชฟโรเลต ได้เดินทางมายัง สน.พหลโยธิน เพื่อร่วมประชุม และร่วมตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุ

             ทั้งนี้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี  ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทาง ผบ.ตร. มอบหมายงานตนให้มาตอบคำถามของสังคมว่า สาเหตุที่รถร่วงลงมานั้น เป็นเพราะอะไร โดยตนได้วางประเด็นไว้ 3 ประเด็น คือ...
 
             1. เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ก็พบว่าผู้ตายเดินเข้าลิฟต์ที่ชั้น 20 ของอาคาร และออกจากลิฟต์ชั้นที่ 6 โดยเดินมาเพียงลำพัง ไม่มีใครเดินตามมา และไม่พบว่าผู้ตายเกิดความเครียดแต่อย่างใดจึงตัดประเด็นนี้ทิ้งไป

             2. เรื่องนี้เกี่ยวกับกลไกเครื่องยนต์หรือไม่ ซึ่งทางตำรวจได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตรวจสอบรถคันดังกล่าว ก็พบว่า พวงมาลัยของรถไม่ได้ล็อค เบรกก็ปกติดี จึงตัดประเด็นนี้ทิ้งไปเช่นกัน

             3. เรื่องพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งพบว่าจุดที่ร่วงลงไปนั้นเป็นที่จอดรถ โดยปกติจะมีรถจอดทุกคัน แต่ในวันและเวลาที่เกิดเหตุ (19.30 น.) ไม่มีรถจอด และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่า ปกติเวลาจะขับรถวนลงต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถ ถึงจะลงได้ แต่ผู้ตายขับรถเลี้ยวขวาเจตนาจะลัดทางเลยวนรถลง และเมื่อวนลงไปแล้วเห็นทางข้างหน้าคล้ายถนนทางตรง จึงขับตรงไป เพราะไม่พบร่องรอยการเบรกที่พื้น แต่มีการเบรกครั้งสุดท้ายตอนที่รถผ่านแนวเสาไปชนกำแพง
 

ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5


             ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากการคำนวณภาพพบการเคลื่อนที่ต่อเนื่องรวม 11 จุด และพบว่าไม่มีการชะลอหรือเร่งเครื่องรถ โดยผู้ตายขับรถด้วยความเร็วเพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่เร็วมาก แต่เนื่องจากเบรกไม่อยู่ เพราะอยู่ในระยะใกล้แนวกำแพงเพียง 9.3 เมตร เท่านั้น ทำให้เบรกไม่ทัน ต่อจากนั้นเพียงชั่ววินาที เมื่อรถชนกรวยแล้ว ก็ไปกระแทกตัวหนอนกั้นรถ ทำให้รถเหินขึ้นไปกระแทกกับกำแพง ก่อนที่จะร่วงลงมา
 
            สำหรับสาเหตุเบื้องต้นนั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. คาดว่า อาจจะเป็นการพลั้งเผลอของผู้ตาย หรือไม่ได้ตั้งสติก่อนสตาร์ท ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และเมื่อตรวจสอบยังโทรศัพท์มือถือก็ไม่พบการโทรเข้า-ออก ในช่วงเวลาดังกล่าว แสดงว่าผู้ตายไม่ได้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ

            อย่างไรก็ดี พล.ต.ท.จรัมพร ก็ได้เชิญกรมโยธาธิการมาตรวจสอบกำแพง และพบว่ากำแพงเป็นแผ่นสำเร็จและมีโครงเหล็ก สูง 75 เซนติเมตร แต่ก็ไม่สามารถกันแรงกระแทกได้ ซึ่งความจริงแล้วกำแพงที่อยู่ด้านตรงกับทางลงจะต้องแข็งแรง เลยอยากจะขอความร่วมมือกับเจ้าของอาคารให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายควบคุม

            ส่วนประเด็นเรื่องเกียร์ P และเบรกมือที่ยกค้างไว้นั้น พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า หลังจากที่รถตกลงสู่พื้น รถก็ยังมีการเคลื่อนอยู่ ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือ และได้ปรับเกียร์พร้อมดึงเบรกมือให้รถหยุดนิ่ง เพื่อทำการดึงร่างผู้ตายออกจากรถ สำหรับการสอบปากพยานรายอื่น ๆ ทราบว่า ผู้ตายทำงานที่บริษัทมา 5-6 ปี และรถคันดังกล่าวก็เป็นรถที่ซื้อเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายขับแต่รถเกียร์ธรรมดา เพิ่งจะมาหัดขับเกียร์ออโต้ได้เพียงไม่กี่เดือน ส่วนขั้นตอนต่อไป ก็จะทำการตรวจสอบอีกครั้งอย่างละเอียด และเตรียมสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5 ชี้ผู้ตายขับย้อนศรลงตึก ไม่เกี่ยวกลไกรถ โพสต์เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2555 เวลา 08:36:56 8,010 อ่าน
TOP