x close

หม่อมอุ๋ย หวั่น จำนำข้าว ทำประเทศล้ม เชื่อก่อโรคหนี้สาธารณะ





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย
 
         อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ทำให้ประเทศเสียหายหนักที่สุด เชื่อ หากยังเดินหน้าต่อไปอาจก่อให้เกิดโรคหนี้สาธารณะ ซึ่งจะสร้างความหายในอนาคต
 

         เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "เหลียวหลังแลหน้ามหาอุทกภัย 2554" ภายในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2555 ครั้งที่ 35 ที่จัดโดยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
 
         ทั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เริ่มกล่าวถึงการเหลียวหลังเรื่องมหาอุทกภัยว่า...ตนคงจะเหลียวหลังกลับไปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะตนอยากจะแลไปข้างหน้า ด้วยเห็นว่าเรื่องน้ำท่วมจะเป็นเรื่องเล็กน้อยทันที เมื่อกล่าวถึงอีกเรื่องหนึ่งซึ่งใหญ่กว่ามากในอนาคตต่อจากนี้ เพราะข้อเท็จจริงเรื่องมหาอุทกภัย จากการติดตามและพูดคุยกับข้าราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนมีมากจริง ขณะที่ผู้บริหารจัดการน้ำเองก็ไม่ได้ทำการพร่องน้ำ ไม่ลดปริมาณน้ำในเขื่อนมากพอที่จะเตรียมรองรับน้ำในปริมาณที่มากขนาดนั้น ผนวกกับที่คูคลองก็ตื้นเขิน การระบายไม่ทัน โดยที่ระบบคลองรังสิตระบายน้ำได้ดี แต่เนื่องจากเราอยู่ในสมัยประชาธิปไตยอิจฉา ไม่ยอมให้น้ำเข้าพื้นที่ตนเองและต้องให้พื้นที่อื่นท่วมไปด้วย โดยที่มี ส.ส.เข้าไปร่วมด้วย เพื่อหาคะแนนเสียงตนเอง เมื่อมีนักการเมืองในพื้นที่เข้ามาด้วยก็ยิ่งยุ่ง
 
         แต่ที่น่าตำหนิมากที่สุด คือการไม่พร่องน้ำในเขื่อนไว้เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน ทั้งนี้ ตนไม่ได้ตำหนิข้าราชการประจำที่เขารู้อยู่แล้วว่าจะมีไต้ฝุ่นเข้ามา แต่บังเอิญพื้นที่ใต้เขื่อนเป็นพื้นที่นา เป็นพื้นที่เลือกตั้งในอาณัติของนักการเมืองผู้มีอิทธิพลใหญ่เหนือรัฐมนตรีเจ้าสำนักที่ไม่ยอมให้พื้นที่นาของตนเองเสียหาย ซึ่งการคิดเช่นนั้น เป็นการคิดแบบไม่รู้จริง จึงมีการอั้นน้ำในเขื่อนไว้ ดังนั้น เมื่อฝนตก สถานการณ์ก็รุนแรง และมีน้ำท่วมสูงกว่าที่ควร ซึ่งเป็นเหตุผลที่น่าช้ำใจที่สุด ดังนั้น ตนจึงกล้าพูดได้เต็มปากว่า  เมื่อใดก็ตามที่นักการเมืองที่มีอำนาจมาก แต่ไม่รู้จริง เห็นแก่พวกพ้อง เข้าไปยุ่งในพื้นที่ ก็จะเกิดความเสียหายแก่สังคม
 
         ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวต่อว่า ความเศร้าใจของนักการเมืองยังมีอีกหลายเรื่อง เพราะตัวรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งแก่ข้าราชการในกระทรวงได้ อีกทั้งไม่มีอำนาจเหนือนักการเมืองในพื้นที่ และยังไม่ยืดอกสู้เพื่อให้ข้าราชการในกระทรวงทำงานอย่างถูกต้องก็คงเกิดความเสียหายต่อสังคมไปเรื่อย ๆ ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้รัฐบาลไม่ได้แสดงฝีมือ ในการแก้ปัญหาได้ประทับใจเท่ากับที่รัฐบาลไทยรักไทยกู้สถานการณ์ช่วงสึนามิ
 
         อย่างไรก็ตาม อุทกภัยครั้งนี้ ก็ช่วยรัฐบาลได้หลายเรื่อง เพราะในช่วงที่น้ำท่วมหนัก รัฐบาลก็เดินหน้านโยบายประชานิยมทุกเรื่อง ทั้งนโยบายรถคันแรก บ้านหลังแรก ซึ่งล้วนสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เป็นประชานิยมที่ไม่ได้ช่วยเหลือสังคม ทั้งที่นักวิชาการ สื่อมวลชนก็พยายามแนะนำ และโจมตีว่าเป็นนโยบายที่ตื้น
 
         อีกทั้ง นโยบายรับจำนำข้าวที่ให้ราคาสูงผิดมนุษย์ เป็นนโยบายที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติมากมาย คาดการณ์ได้เลยว่า อย่างต่ำปีละกว่าแสนล้านบาท คงเพราะรัฐบาลไม่คิดที่จะทำนโยบายเศรษฐกิจที่ดีกว่ารถคันแรก บ้านหลังแรก ซ้ำยังเพิ่มการรับจำนำมันสำปะหลัง และยางพาราอีก ทั้งที่ยางพาราในราคา 60-80 บาทก็นับว่าสูงแล้ว จึงเห็นได้ชัดว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่เข้าใจเรื่อง 'วินัยการคลัง' และไม่สนใจวินัยของประเทศ ไม่สนใจว่าการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร และการรับจำนำของรัฐบาล คือ ใช้เงินรับซื้อ ซึ่งผิดไปจากการความหมายและการรับจำนำที่เคยมีมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดแล้ว
 
         และเมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการประเมินความเสียหาย ได้ประเมินการรับจำนำข้าวในโครงการนาปี 6.9 ล้านตัน โดยประเมินจากต้นทุนที่จ่ายเข้าบัญชี รวมค่าจ้างสี ค่าแปรรูปข้าวสาร ค่าจ้างเก็บ และค่าใช่จ่ายทุกอย่าง รวมทั้งดอกเบี้ย ซึ่งราคาขายได้ตามตลาด เมื่อบวกลบกันแล้วในจำนวน 6.9 ล้านตันนั้น เสียหายไป 3 หมื่นกว่าล้านบาท แต่ตนเชื่อว่า ต้องเสียหายมากกว่านั้น  เพราะกว่าจะระบายข้าวหมด ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ซึ่งดอกเบี้ยจะเดินต่อไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญ คุณภาพที่ข้าวเสื่อมลง ก็จะยิ่งทำให้เสียหายขึ้นไปอีก ส่วนเรื่องอันดับข้าวของโลกยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเราแพ้ไปแล้ว
 
         ทั้งนี้ เมื่อความเสียหายเกิดขึ้น นักวิชาการก็ออกมาแนะ อย่าง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาก็ยังไม่เอาด้วย ขณะที่รัฐบาลคิดแค่ว่าเมื่อดึงข้าวออกจากตลาดแล้วราคาจะขึ้น ด้วยเห็นว่าตนเองเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ แต่ที่จริงแล้วยอดส่งออกเรา ไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับข้าวในโลก ฉะนั้น การดึงข้าวออกนั้น ในตลาดโลกเทียบดูแล้วปริมาณเพียงนิดเดียวเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ดังจะเห็นได้ว่าราคาข้าวไม่ได้ขึ้น แต่กลับลดลงด้วยซ้ำ
 
          ดังนั้น ในที่สุด 1 ฤดูกาลที่ผ่านมานอกจากราคาข้าวก็ไม่ขึ้นแล้ว การประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ราคาต่ำกว่าตลาดทุกครั้ง ยิ่งขาดทุนมหาศาล ข้อเท็จจริงแบบนี้ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะรู้สึกบ้างไหม และคำตอบของรัฐบาล คือ มติ ครม.อนุมัติว่าในปีหน้าจะเดินหน้าโครงการต่ออีก 3.3 ล้านตัน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า คนเราพอทำอะไรพลาด โดยเฉพาะทำให้ประเทศชาติเสียหายได้ขนาดนี้ ไม่อายบ้างหรือ
 
         ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในอดีตไม่มีโครงการไหนของประเทศชาติเสียหายเท่าจำนำข้าว ตั้งแต่ปีก่อน ๆ ที่ทำมา ไม่ว่ารัฐบาลพรรคไหนก็เสียหาย และขาดทุนทุกครั้ง ทำไมไม่รู้จักเข็ด ปีก่อนเสียหายปกติหลักหมื่นล้าน แต่ครั้งนี้หลักแสนล้าน และมีแววว่าจะเสียหายหนักขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจากข้อมูลหนี้สาธารณะของประเทศไทย ฐานะการเงินการคลังนับว่าดีกว่ายุโรป แต่หากเดินหน้าโครงการต่อไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ เกรงว่าหนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากถึงวันนั้นต่างชาติคงเริ่มไม่เชื่อมั่นในประเทศไทย ทำให้เรากู้เงินไม่ได้ และค่าเงินเราจะตกด้วย
 
         การที่ตนออกมาพูดในวันนี้ ไม่ได้มาหาเรื่องรัฐบาล แค่จะบอกว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังเดินอยู่ ในที่สุดแล้วจะเกิดปัญหาใหม่ นั่นคือ หนี้สาธารณะที่สูงอยู่แล้วจะสูงเกินไป ซึ่งโรคหนี้สาธารณะสูง เป็นโรคที่อันตรายที่สุด ถึงเวลานั้นแก้กลับได้อยาก จะกระทบค่าเงินและหลาย ๆ อย่างในประเทศ ถึงตนจะกลัว แต่ก็ไม่รู้จะร้องเรียนกลับใคร ไปบอก รมว.คลังก็ดูจะไม่เข้าใจ และไม่แคร์วินัยการคลัง ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะอ้างว่าเป็นรัฐบาลแค่ 4 ปี ตนว่ามันไม่แฟร์นัก ต่อให้ใครคนมาใหม่ ก็คงเข้ามาแก้ไม่ได้ เพราะเป็นโรคที่นักเศรษฐศาสตร์กลัวที่สุด
 
         ทั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ใหญ่มากสำหรับประเทศไทย ตนว่าจากนี้ สังคมไทยควรพูดเรื่องหนี้สาธารณะกันให้มากขึ้น รวมทั้งออกมาช่วยกันเรียกร้องกับรัฐบาลว่า เลิกทำนโยบายแบบนี้ และหยุดสร้างหนี้ได้แล้ว เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะตามเรื่องจำนำข้าวต่อไป เพราะจากประวัติศาสตร์แล้ว เป็นนโยบายที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศสูงที่สุด
 






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

isranews.org










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หม่อมอุ๋ย หวั่น จำนำข้าว ทำประเทศล้ม เชื่อก่อโรคหนี้สาธารณะ อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13:36:41 3,328 อ่าน
TOP