เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
พบแล้ว! ซากเครื่องบินเล็กตกป่าเขาใหญ่ เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ยังไม่พบศพของ 2 นักบินที่สูญหายไปพร้อมกัน ด้านครอบครัว เชื่อลูกชายเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ นอภ.แก่งคอย มั่นใจ 2 นักบินไม่ได้กระเด็นออกนอกตัวเครื่อง
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบซากเครื่องบินเล็กตกอยู่ในบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ใกล้พื้นที่รอยต่อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยจากการตรวจสอบทราบว่า เป็นเครื่องบินเล็ก ยี่ห้อเซสน่า 172 ที่สูญหายไปในระหว่างที่ นายภาคิน (ประกรณ์) ไทยถนอม ครูฝึกการบินของบริษัท บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด และ นายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ นักเรียนนายบินฝึกหัดบังคับมาที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550
โดยเจ้าหน้าที่ที่ไปพบซากเครื่องบินลำดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังเดินไปสำรวจป่าในภารกิจของศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ ก็ได้พบซากเครื่องบินตกอยู่บริเวณหุบเหวของป่าลึก เจ้าหน้าที่จึงเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง และได้พบกับเครื่องบินเล็กสภาพแหลกละเอียด เมื่อเข้าไปสำรวจใกล้ ๆ ก็พบชุดหมีของนักบิน และรองเท้าตกอยู่ใกล้กับเครื่องบินด้วย โดยจากสภาพเสื้อผ้าบอกได้ว่า เครื่องลำดังกล่าวน่าจะตกมานานแล้ว และได้บันทึกภาพออกมามอบให้กับผู้สื่อข่าว และญาติของ 2 นักบินที่สูญหายไปได้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ เมื่อญาติของ 2 นักบินที่สูญหายไปได้เห็นภาพถ่ายก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือเครื่องบินที่ นายภาคิน และนายรณพ ใช้บินมาจากสนามบินเล็ก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550 เพื่อเดินทางกลับมายังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร แต่ระหว่างทางเครื่องบินลำดังกล่าวได้หายไปจากจอเรดาร์ ทำให้เจ้าหน้าที่และครอบครัวระดมกำลังค้นหาเป็นเวลานานแต่ไม่พบตัว นอกจากนี้ ชุดหมีที่พบก็น่าจะเป็นของ 2 นักบินฝึกหัดด้วย โดยคาดว่าทั้งสองคนน่าจะเสียชีวิตแล้ว
ด้าน กัปตันประยุทธ ไทยถนอม บิดาของนายภาคิน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อมาเห็นหลักฐานนี้ก็เชื่อว่าซากเครื่องบินที่พบเป็นลำเดียวกันกับเครื่องบินที่ลูกชายบังคับมาแล้วสูญหายไป ยิ่งตกตรงจุดนี้ก็ยิ่งบ่งบอกชัดว่าใช่ เห็นภาพแล้วก็รู้สึกหัวใจสลาย เชื่อว่าเขาคงไม่อยู่แล้ว เมื่อก่อนครอบครัวก็หวังว่าเขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่มาตอนนี้ก็ไม่ได้หวังอะไรแล้ว ถือว่าวันนี้เป็นวันที่รอคอย เพราะเหน็ดเหนื่อยตามหากันมามาก หลังจากนี้ก็จะนำเขากลับบ้านไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
เช่นเดียวกับ นางวรรณี เหลืองวิลาวัณย์ มารดาของ นายรณพ ที่กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้ได้บอกกับลูกชายแล้วว่า แม่มาอยู่ตรงนี้แล้ว แม่จะพาลูกกลับไปบ้าน พร้อมกับขอบคุณช่อง 3 ที่ช่วยติดตามข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบสาเหตุ และรายละเอียดต่าง ๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต่อไป
ในเวลาต่อมา นายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ที่บริเวณป่าเขตเขาใหญ่มีสภาพอากาศปิด ทำให้การเดินทางของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปเก็บกู้ซากเครื่องบิน และโครงกระดูกของ 2 นักบินล่าช้าออกไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ของแก่งคอยทั้ง 4 ชุด กำลังเดินเท้าจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด เข้าไปยังจุดที่พบซากเครื่องบิน คาดว่าจะสามารถนำโครงกระดูกออกมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ในเวลาประมาณ 20.00 น.
นอกจากนี้ นายอำเภอแก่งคอย ยังยืนยันว่า จากภาพถ่ายซากเครื่องบิน ภายในตัวเครื่องมีชุดนักบิน 2 ชุด ซึ่งมั่นใจว่า ทั้ง 2 นักบิน ไม่ได้กระเด็นออกจากตัวเครื่อง
สำหรับเหตุการณ์เครื่องบินเล็ก เซสน่า 172 สูญหายไปนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ขณะที่ นายภาคิน ไทยถนอม และนายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ ได้นำเครื่องบินขึ้นจากสนามบินเล็ก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเดินทางกลับมายังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร แต่หลังจากเครื่องออกบินได้ประมาณ 40 นาที เครื่องบินก็หายไปจากจอเรดาร์ และขาดการติดต่อไป ในระหว่างที่บินผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงรอยต่อจังหวัดนครราชสีมา นครนายก และปราจีนบุรี
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทราบข่าวก็เร่งระดมกำลังค้นหาเครื่องบิน และนักบินทั้ง 2 คนนายที่หายตัวไป แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบตัว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียใจต่อครอบครัวของทั้ง 2 นักบินเป็นอย่างมาก และพยายามติดตามหามาตลอด 5 ปี กระทั่งมาพบซากเครื่องบินในที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
