เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการข่าว 3 มิติ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ยังคงมีประเด็นให้ติดตามต่อเนื่อง จากข่าวการพบซากเครื่องบินตกในผืนป่าเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นเหตุให้ 2 นักบินที่มากับเครื่อง คือ นายภาคิน ไทยถนอม อายุ 26 ปี และนายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ อายุ 27 ปี หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550
ทั้งนี้ ทีมข่าวรายการ "ข่าว 3 มิติ" ทางช่อง 3 ได้ลงพื้นที่เกาะติดความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทีมข่าวได้ทำภาพจำลองเหตุการณ์เครื่องบินตก ซึ่งรวบรวมมาจากข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุจากหลาย ๆ ฝ่าย รวมทั้งเสียงสนทนาสุดท้ายของ 2 นักบินที่ติดต่อกับหอวิทยุการบินก่อนประสบเหตุ ทำให้ทราบว่า ก่อนที่เครื่องบินจะหายไปจากจอเรดาร์ นักบินแจ้งว่าบินอยู่เหนือ ต.หินกอง และได้บินเข้าไปในแนวเขา แต่สักพักก็ขอเลี้ยวกลับมาที่ ต.หินกอง เพราะเจอปัญหาเครื่องวัดบนแผงหน้าปัดเสียไปบางส่วน ทำให้ไม่รู้ว่าเครื่องบินบินอยู่ในทิศทางไหน
หลังจากนั้น เครื่องบินลำดังกล่าวก็ขาดการติดต่อไป จึงคาดการณ์ว่าอาจเป็นไปได้ว่า นักบินทั้ง 2 คน บินไปเจอสภาพบนท้องฟ้าที่มีเมฆมาก ทำให้เครื่องวัดมีปัญหา หรือปีกด้านขวาของเครื่องอาจบินไปชนกับต้นไม้ ทำให้เครื่องหมุนจนหงายท้องตกลงไปตามข้อสันนิษฐาน และสภาพของจุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ กัปตันรังสี เหลืองวิลาวัณย์ พ่อของนักบินรณพ ก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสกายรีพอร์ตไปสำรวจจุดที่เครื่องบินตก และสภาพเครื่องบินด้วย โดยพบว่าชิ้นส่วนของปีกเครื่องบินข้างขวาตกห่างจากตัวเครื่อง หัวของเครื่องบินอยู่ในลักษณะปักพื้น ตัวเครื่องหงายท้อง กัปตันรังสี จึงคาดการณ์ว่า ปีกขวาของเครื่องบินอาจบินไปชนกับต้นไม้ ทำให้เครื่องบินเสียหลักหมุนคว้าง ก่อนตกลงสู่พื้นดิน และปีกขวาคงจะไปชนกับพื้นจนพับเข้ามาอยู่ใต้ลำตัวเครื่อง ก่อนตัวเครื่องจะไถลไปชนกับเนินเขาจนเครื่องยนต์ถูกอัดเข้ามาอยู่ใต้ที่นั่งเครื่องบิน
ขณะที่ นายบันลบ บุญจมาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการบิน กรมการบินพลเรือน ระบุว่า ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แม้เครื่องบินลำนี้จะไม่มีกล่องดำ แต่ก็สามารถนำเครื่องยนต์ ระบบบังคับการบิน การติดต่อกับวิทยุการบิน ฯลฯ มาพิจารณาหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งที่ทีมค้นหาต้องเร่งทำก็คือ การค้นหาร่างของ 2 นักบินซึ่งไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุ โดยเมื่อพิจารณาจากสภาพของชุดนักบิน 1 ชุด ที่พบในจุดเกิดเหตุข้างเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าเป็นชุดของนักบินภาคิน เพราะเป็นคนตัวเล็ก พบว่ามีรอยขาดที่ขา แต่ชุดไม่เน่าเปื่อยมากนัก และไม่มีโครงกระดูกอยู่ภายในชุด จึงเป็นไปได้ว่า อาจไม่มีศพอยู่ด้านในชุด และในวันเกิดเหตุนักบินคนนั้นอาจบาดเจ็บและหนีเอาตัวรอดออกมา
ส่วนชุดของนักบินรณพนั้น ช่างเครื่องของบริษัท บางกอก เอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด ยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุนักบินรณพใส่ชุดนักบินสีขาว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณรอบซากเครื่องบินกลับยังไม่พบชุดดังกล่าว พบแต่เพียงกระเป๋าของนักบินรณพห่างจากตัวเครื่อง
ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลใหม่ว่า ในการเดินทางแต่ละครั้ง นักบินจะมีกระเป๋ายังชีพ 1 ใบ โดยในกระเป๋าจะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำ ซึ่งก็ยังไม่พบในจุดเกิดเหตุ ครอบครัวจึงสันนิษฐานว่า หลังเครื่องบินตก ทั้ง 2 นักบินอาจได้รับบาดเจ็บ หนีรอดออกมาจากตัวเครื่อง ก่อนจะไปเสียชีวิตในพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องทำการปูพรมค้นหาอย่างละเอียดต่อไป
