x close

ฮา ๆ กับเจาะข่าวตื้นตอนที่ 77 กัดจิก รับจำนำข้าว




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          ยังคงมีเรื่องมาให้ฮากันอีกแล้ว สำหรับรายการทีวีบนอินเทอร์เน็ตของพิธีกรสุดฮา จอห์น วิญญู ใน เจาะข่าวตื้น ที่ครั้งนี้ มาในตอนที่ 77 พร้อมกับประเด็นแสบ ๆ คัน ๆ มัน ๆ ที่พร้อมให้คนไทยได้ขบคิด หาคำตอบด้วยตัวของตัวเอง

          เริ่มแรกกับข่าวการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตซอลโลก ที่ทีมชาติไทย โดนทีมชาติสเปนถลุงไปถึง 7-1 และแม้ว่าทีมชาติไทย จะเอาคืนมาได้ 1 ลูก ก็กลับดีใจประหนึ่งได้แชมป์เสียเอง อีกทั้งยังมีเรื่องสนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า มูลค่ากว่า 1,300 ล้าน ที่สร้างเสร็จไม่ทันการใช้งานจริง งานนี้ จอห์น วิญญู เลยแนะนำว่า น่าจะเอาไปทำโรงเก็บข้าวสารดีกว่านะ

          ส่วนในตอนนี้ ไทยเสียอันดับแชมป์การส่งออกข้าวของโลกให้กับอินเดียและเวียดนาม ที่มาแรงเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ตามลำดับ โดยที่ยอดการส่งออกลดลง 45% จากปี 2554 แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ แม้ไทยจะไม่ได้ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 แต่ราคาก็เป็นที่ 1 เพราะข้าวไทยแพงที่สุดในโลก!!!



          ในรายการเจาะข่าวตื้น จอห์น วิญญู ยังได้กล่าวถึง โครงการรับจำนำข้าว ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการนำเงินภาษีของประชาชนมาซื้อข้าวเอาไว้ทั้งหมดทุกเม็ดที่เกษตรกรนำมาขาย ในราคาตันละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท โดยที่รัฐบาลจะเอาข้าวไปขายเอง และถ้าจะขายให้ได้กำไร ก็ต้องขายที่ตันละ 700 ดอลลาร์ แพงกว่าตลาดโลกถึง 100-150 ดอลลาร์ต่อตัน และหากต้องการให้ไทยสามารถแข่งขันกับเวียดนามได้ ต้องมีส่วนต่างประมาณ 20-30 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น ซึ่งเราคาดว่า เมื่อเวียดนามขายข้าวหมดแล้ว ก็จะมีคนมาซื้อที่ไทย แต่ลืมนึกไปว่าประเทศไทยยังมีคู่แข่งอย่าง พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน อินเดีย ที่ยังปลูกข้าวส่งออกเหมือนกัน ซึ่งทำให้คนไทยหลายคนยังเชื่อว่าประเทศไทยขายข้าวที่ดีที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงคือ ข้าวของไทยกลับขายไม่ออก และทางฝั่งเวียดนามเอง ก็มีข้าวหอมมะลิของเขาเหมือนกัน และพม่าเอง ก็มีข้าวหอมมะลิ ที่สำคัญข้าวหอมมะลิของพม่าชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของไทยด้วย

          และปัญหาอีกอย่างหนึ่งของการรับจำนำข้าวคือ ต้องไปหาที่เก็บ เพราะทางรัฐบาลเอง รับซื้อข้าวเอาไว้ทั้งหมด ข้าวเก่าเองก็ค้างสต็อก ข้าวใหม่ตามฤดูกาลก็มาเรื่อย ๆ และวิธีการเก็บข้าว ก็ต้องมีที่เก็บเฉพาะ ที่มีทั้งหลังคาคลุมและการควบคุมความชื้น ไม่ใช่เก็บไว้ที่ไหนก็ได้ ดังนั้น วิธีการที่จะไม่ให้ข้าวค้างสต็อกคือ การระบายข้าวออกไปขายให้ได้มากที่สุด โดยที่รัฐบาล ได้ติดต่อกับผู้ส่งออกข้าว เพื่อที่จะขายข้าวออกไป เพื่อไม่ให้ข้าวล้นสต็อก ซึ่งกระทำได้โดยผู้ส่งออกข้าว เป็นพ่อค้าคนกลาง ไปสำรวจมาว่า ประเทศปลายทางจะซื้อข้าวในราคาตันละเท่าไหร่ และผู้ส่งออกข้าว ก็จะมาคำนวณราคา พร้อมกับเสนอรัฐบาลว่า จะซื้อข้าวจากรัฐบาลในราคาตันละเท่าไหร่ และรัฐบาลจะขายให้ในราคานั้น  หากทำแบบนี้จะมีทั้งการชดเชยเงินให้ชาวนา โรงสี แล้วก็เก็บข้าวเอาไว้ แล้วก็ชดเชยเงินให้ผู้ส่งออก



          หากต้นทุนของข้าวตกที่ตันละ 700 ดอลลาร์สหรัฐแล้วประเทศผู้รับซื้อข้าวยื่นราคาไว้ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องขายให้ผู้ส่งออกในราคา 550 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ผู้ส่งออกได้กำไร 50 ดอลลาร์สหรัฐ นั่นเท่ากับว่า เราต้องยอมขายข้าวขาดทุน เพื่อที่จะระบายสต็อกข้าวได้ทัน และเงินที่มาชดเชยนั้น เป็นเงินภาษีของทุกคนจริง ๆ

          และในขณะนี้ข้าวที่เก็บเอาไว้ในยุ้งฉางนั้น 60% ไม่สามารถกินได้ แต่ทางเวียดนามเองจะเข้ามาช่วยซื้อ เพื่อเอาไปให้หมูกิน!!!!!!!

          ตลอดเวลาที่ทำการจำนำข้าว รัฐบาลขาดทุนไปมากกว่า 112,000 ล้านบาท หากถึงปีหน้า ไทยจะขาดทุนจากการรับจำนำข้าว 210,000 ล้านบาท ส่วนเงินที่เอามาจ่ายนั้น เป็นเงินที่กู้มาทั้งนั้น สมมุติว่าเอาเงินกู้มาละลายปีละ 1 แสนล้านบาท 3 ปีก็ 3 แสนล้านบาท ซึ่งนี่เป็นเพียงเงินส่วนเดียวจากการรับจำนำข้าว ไม่รวมโครงการเมกะโปรเจกต์อื่น ๆ ทั้งสร้างเขื่อน สร้างรถไฟฟ้า แท็บเล็ต ฯลฯ และภายในปี 2558 เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามวัฏจักร และถ้าประเทศไทยยังคงรับจำนำข้าวอยู่ ประเทศไทยก็จะมีหนี้สาธารณะ ที่ก่อโดยรัฐบาลกว่า 60% ของจีดีพี และเมื่อถึงเวลาใช้คืน ไทยก็จะมีสภาพไม่ต่างกับประเทศกรีซ โดยเฉพาะเหล่าข้าราชการที่พึ่งพาเงินภาษีของประชาชน อาจได้รับผลกระทบเป็นพวกแรก รับรองว่า สนุกแน่ ๆ พี่น้องชาวไทย!

          นอกจากนี้ ยังมีการไปสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการที่จะนำข้าวที่รับจำนำ ไปเก็บไว้ที่ไหนดี ซึ่งก็มีคนมากมายที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น  ทั้งที่บอกให้เก็บที่บางกอก ฟุตซอล อารีน่า, บ้านตัวเอง, ห้องน้ำ (นั่งไปกินไป), บ้าน อบต



          นอกจากนี้ ยังมีเจาะข่าวตื้น ยังมีช่วงใหม่ขึ้นมา โดยจะเชิญแขกรับเชิญมาร่วมสัมภาษณ์ ซึ่งผู้ที่มาวันนี้ คือ โต้ สุหฤท นักดนตรีชื่อดัง และผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

          ด้าน สุหฤท  ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ตนเองมีนโยบาย 4 อย่างคือ

          1. การศึกษา ที่จะ ยกเลิกนโยบายการศึกษาที่เป็นกฎหยุมหยิม และ ยกเลิกการสอบ ที่เป็นการวัดผล

          2. ทำให้ผู้หญิงมีความสุข ยกเลิกกล้องดัมมี่ ติดไฟฟ้าสว่างในมุมมืด

          3. จะกระจายอำนาจออกไป ให้ ผอ.เขตแต่ละเขต ที่รู้ว่าปัญหาคืออะไร ได้จัดการด้วยตัวเอง

          4. Boutique Bangkok ทำกรุงเทพให้เนี้ยบ อย่างเช่น เส้นการจราจร บ่งบอกความเนี้ยบของผู้บริหาร และมีโรงศิลปะให้คนได้แสดงออก เพราะไม่มีใครสามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ด้านเดียว จะจัดสรรพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงออก


          นอกจากนี้ ยังมีช่วง 20 คำถามเกี่ยวกับกรุงเทพ เช่น กรุงเทพฯ มีประชากรตามสำมะโนประชากรเท่าไหร่ (5.6 ล้านคน), มีเขตการปกครองกี่เขต (50 เขต), เขตที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 (ลาดกระบัง) และคำถามกวน ๆ เช่น แขวงไหนมีความสุขที่สุด (คูหาสวรรค์), แขวงไหนเล็กที่สุด (แขวงบางมด), กรุงเทพฯ มีซ่องหรือไม่ (มี)!!!!!

          ส่วนใครที่อยากติดตาม สุหฤท หาเสียง สามารถติดต่อได้ทาง ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และยูทูบจ้า ...





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฮา ๆ กับเจาะข่าวตื้นตอนที่ 77 กัดจิก รับจำนำข้าว โพสต์เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2555 เวลา 10:12:48 3,336 อ่าน
TOP