เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดี ชวน หลีกภัย หมิ่นประมาท พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ชี้เป็นคดีไม่มีมูล เห็นพ้องพิพากษายืนเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น
เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันนี้ (21 พฤศจิกายน) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.2191/2553 ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328, 326 ตามคำฟ้อง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 ว่าจำเลยได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กล่าวหาว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นคนพูดจาโกหกตลบตะแลง ไม่พูดความจริง เป็นคนไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่รับผิดชอบในคำพูดของตนเอง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และเกลียดชัง
นอกจากนี้ การที่โจทก์ระบุอักษร "ช" ชื่อผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีส่วนพัวพันกับการฮั้วการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 กทม. กับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งจำเลยตอบคำถามกับสื่อมวลชนว่า มีความรู้สึกคล้ายเป็นการโกหกรายวัน ไม่ใช่โฆษกรายวัน เนื่องจากจำเลยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น การที่กล่าวหาโจทก์ดังกล่าว ย่อมมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่าคนธรรมดา
ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากคดีไม่มีมูล และคืนเงินค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคำคู่ความหรือเอกสารจำนวน 300 บาท ที่โจทก์วางไว้ตามคำแถลงในวันยื่นฟ้องแก่โจทก์ เนื่องจากศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ก่อนหน้านี้โจทก์เคยกล่าวถึงบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์โดยระบุอักษรย่อ ช ว่าได้ฮั้วกับพรรคการเมืองใหม่ไม่ให้ลงสมัครซ่อม ส.ส. กทม. เขต 6 ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2553 ซึ่งจำเลยเข้าใจว่า อักษรย่อ ช หมายถึงตัวจำเลย ดังนั้นการที่จำเลยออกมาให้สัมภาษณ์ข้อความนั้นจึงมีลักษณะติเตียน และดูรุนแรงไปบ้าง
ส่วนข้อความที่ระบุว่า โจทก์โกหกรายวัน ของจำเลยนั้น เป็นเพียงคำประกอบคำชี้แจงของจำเลย ซึ่งข้อความดังกล่าว ไม่เป็นการทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 ทั้งนี้ การอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น โดยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเนื่องจากคดีไม่มีมูล และศาลอุทธรณ์ก็เห็นพ้องด้วยพิพากษายืนเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก