ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ kringseven สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ลูกกตัญญู เผย หากแม่หายป่วย จะจัดคอนเสิร์ตขอบคุณ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา และเพื่อให้แม่ได้ดูคอนเสิร์ตจริงสักครั้ง ด้านเจ้าตัวรับปากยินดีไปร่วมงาน และจะร้องเพลงให้ฟังอย่างจุใจ
จากกรณี นางวร เปรมานุพันธ อายุ 62 ปี มารดาของ นายประเทืองวิทย์ โชติสุริยา อายุ 44 ปี เจ้าพนักงานสรรพสามิต ชำนาญงานฝ่ายปราบปราม ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดระยะสุดท้าย โดยได้เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กับโรงพยาบาลสิรินธร จนกระทั่งวันที่ 19 พฤศจิกายน นางวรได้หมดลมหายใจไปนาน 3-5 นาที แต่แพทย์ได้รีบปั๊มหัวใจจนฟื้นขึ้นมาแต่ยังไม่ได้สติ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินช่วงเที่ยง ดังนั้น นายประเทืองวิทย์ ที่ต้องการสร้างความสุขให้แม่เป็นครั้งสุดท้าย จึงติดต่อนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พี่เป้า สายัณห์ สัญญา มาที่โรงพยาบาลก่อนแม่หมดลมหายใจ แต่เมื่อนักร้องลูกทุ่งชื่อดังเดินทางมาเยี่ยม นางวรกลับได้สติ และอาการที่ทรุดหนักกลับดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ โดยพี่เป้าได้ร้องเพลงให้นางวรฟัง พร้อมทั้งให้กำลังใจก่อนเดินทางกลับ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (21 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ห้องอายุกรรมหญิง ชั้น 5 โรงพยาบาลสิรินธรว่า นางวร ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่เตียง 19 โดยมีนายประเทืองวิทย์ ผู้เป็นลูกชายคอยเฝ้าอยู่ โดยอาการของนางวรเริ่มดีขึ้น ใบหน้าดูสดใสกว่าวันก่อน ๆ และแพทย์ได้เปลี่ยนท่อช่วยหายใจมาเป็นแบบฝึกหายใจเองครึ่งหนึ่ง และช่วยหายใจอีกครึ่งหนึ่ง
นายประเทืองวิทย์ กล่าวว่า วันนี้อาการของแม่ตนเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ใบหน้าดูสดใสขึ้นมาก สื่อสารกับลูกหลานได้มากขึ้น ตนก็หวังว่าอาการของแม่จะดีขึ้นจนได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ ทั้งนี้ หลังที่สื่อแขนงต่าง ๆ ได้ช่วยนำเสนอข่าวออกไป หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนที่ไม่เคยติดต่อกันมานานกว่า 20 ปี ก็โทรศัพท์มาแสดงความยินดี พร้อมบอกกับตนว่า ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ซึ่งขณะนี้มีรายการโทรทัศน์ทั้งฟรีทีวี และช่องเคเบิลติดต่อให้ตนสัมภาษณ์หลายรายการแล้วเช่นกัน
นายประเทืองวิทย์ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้า พี่เป้า สายัณห์ ก็โทรศัพท์มาถามอาการของแม่ตนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนตั้งใจว่า หากแม่หายป่วยได้กลับไปอยู่บ้านจริง ก็จะจัดคอนเสิร์ต พี่เป้า สายัณห์ ขึ้นในลานกว้างประมาณ 1 ไร่ ในหมู่บ้านที่ตนพักอาศัยอยู่ เพื่อเป็นการขอบคุณพี่เป้าที่เหมือนเป็นคนให้ชีวิตกับแม่ของตนอีกครั้ง เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา แม่ของตนยังไม่เคยไปดู พี่เป้า สายัณห์ เล่นคอนเสิร์ตเลยสักครั้ง หากเป็นไปได้ ตนก็อยากให้แม่ขึ้นไปร้องเพลงคู่กับพี่เป้า แม้จะแค่ 2-3 ท่อนก็ยังดี
จากนั้นนายประเทืองวิทย์ ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พี่เป้า สายัณห์ สัญญา เพื่อให้ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความรู้สึกหลังจากได้มาเยี่ยมนางวรจนอาการดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ ซึ่งหลังจากพี่เป้า สายันห์ รับโทรศัพท์ ก็เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายประเทืองวิทย์ ได้โทรศัพท์มาบอกว่า แม่ที่ป่วยหนักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินช่วงเที่ยงของวันนั้น แต่แม่เป็นแฟนเพลงของตนมาตลอด ซื้อเทปมาทุกชุด และแม่เคยบอกลูกหลานไว้ว่า หากเป็นไปได้ก็อยากจริงตัวจริงสักครั้งก่อนตาย นายประเทืองวิทย์ จึงอยากทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงด้วยการขอให้ตนมาเยี่ยมแม่
พี่เป้า สายัณห์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้ยินดังนั้น ตนก็รู้สึกปลื้มเป็นอย่างมากที่ยังมีแฟนเพลงแบบนี้อยู่ จึงตัดสินใจเปลี่ยนชุดแล้วรีบขับรถเดินทางออกไปโรงพยาบาลสิรินธรทันที แม้ช่วงเย็นจะติดงานก็ตาม เพราะคิดว่าแฟนเพลงทุกคนเป็นผู้มีพระคุณกับ สายันห์ สัญญา แม้จะไม่เคยมาดูตนเล่นคอนเสิร์ต แต่ก็ต้องเคยจ่ายเงินซื้อเทป ซื้อซีดีของตนบ้าง ถ้าไม่มาก็จะเป็นคนใจดำ อีกทั้งยังไม่เกินความสามารถอะไร เพราะบ้านพักตนอยู่แค่ย่านฝั่งธนเท่านั้น ระหว่างทางก็มีหลงทางบ้าง แต่ก็อธิษฐานมาตลอดทางว่า ขอให้มาให้ทันนางวรยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ได้สมหวังเจอตนสักครั้ง
พอมาถึงโรงพยาบาลสิรินธร คุณป้าก็ฟื้นขึ้นมายิ่งทำให้ตนปลื้มใจมากขึ้นอีก ตนก็เข้าไปบอกแกว่า ถ้าสิ้นบุญไปจริง ๆ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะอีกไม่นาน ตน หรือลูกหลาน ก็ต้องตามไปเช่นกัน ถ้าหากยังไม่ถึงที่ตาย หรือหายดีแล้วก็ต้องอยู่กับลูกหลานไปอีกนาน 20-30 ปีเลยนะ คุณป้าก็ยิ้ม ตนบอกให้แกสู้ ๆ ตัวคุณป้าก็ชู 2 นิ้ว แล้วก็จับมือตนไปเขย่า ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตที่ลูกชายคุณป้าจะจัดให้นั้น ตนก็ยินดีจะไป เพราะคุณป้ายังไม่เคยมาดูตนเล่นคอนเสิร์ตสักครั้ง จะร้องให้แกฟังอย่างจุใจไปเลย
ด้าน นพ.ยลชัย จงจิระศิริ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.สิรินธร กล่าวถึงอาการของนางวรว่า อาการของผู้ป่วยในวันนี้นั้นดีขึ้นตามลำดับ สามารถสื่อสารกับลูกหลานได้มากขึ้น มีเพียงปอดที่มีปัญหาเท่านั้น เพราะปอดหายไปข้างหนึ่ง ตอนนี้ยังต้องใส่ท่อช่วยหายใจทางปากอยู่ พร้อมกับฝึกให้หายใจเองด้วย โดยหลังจากนี้จะทำการเจาะคอผู้ป่วยเพื่อต่อท่อช่วยหายใจตรงไปที่ปอด แต่ต้องรอสังเกตอาการอีกครั้งว่าจะสามารถเจาะได้เมื่อไร สำหรับร่างกายส่วนอื่นนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แพทย์ได้ลองให้อาหารทางสายยางแล้วร่างกายผู้ป่วยก็สามารถรับได้ สำหรับบริเวณกระดูกซี่โครงที่หักจากการปั๊มหัวใจนั้น คาดว่าประมาณ 1 เดือนครึ่ง ก็น่าจะกลับมาหายเป็นปกติ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
