เสธ.อ้าย เมิน รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ หวังคุมม็อบ เชื่อ ช่วยเรียกแขกเพิ่มให้ม็อบมากกว่า ย้ำ ชุมนุมโดยสงบ ไม่น่าห่วง
วันนี้ (22 พฤศจิกายน) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 22-30 พฤศจิกายน เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ว่า ตนอ่านกฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาไม่มาก จึงไม่ทราบว่า เมื่อประกาศใช้แล้วจะมีความหมายอย่างไร แต่ตนก็จะขอทำหน้าที่ของตนเองต่อไป
เมื่อถามว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะกระทบต่อการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.บุญเลิศ ยืนยันว่าไม่กระทบ และยังเชื่อว่าจะยิ่งเรียกแขกให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้นกว่าเดิมอีก เนื่องจากการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ จึงไม่น่าห่วง เพราะขนาดกฎหมายที่เคยประกาศใช้ในการชุมนุมในอดีตที่มีการเผาบ้านเผาเมืองก็ไม่เห็นมีผลอะไรเลย
เสธ.อ้าย มั่นใจแผนเด็ด ล้มรัฐบาลได้แน่ หากม็อบมามาก
เสธ.อ้าย เมิน ติดคุก เดินหน้าชุมนุมเดินหน้าปลุกม็อบล้มรัฐบาล 24 พ.ย. นี้ หากคนร่วมมาก มั่นใจ แผนเด็ดล้มรัฐบาลได้แน่ ปัด พล.อ.เปรม-สุรยุทธ์ อยู่เบื้องหลัง
วานนี้ (21 พฤศจิกายน) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) แถลงข่าวถึงการชุมนุมของ อพส. ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ว่า ขอย้ำว่าการชุมนุมครั้งนี้เพราะเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน 2. รัฐบาลเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ 3. ปล่อยให้มีการทุจริตคอรัปชั่น
โดย พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อหวังให้บ้านเมืองก้าวหน้า และให้ประชาชนเคารพในสถาบัน ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะทรุดโทรมไปกว่านี้ และตนไม่ทราบว่ารัฐบาลจะกลัวอะไรตนนัก เพราะมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 หมื่นนาย แสดงว่าการข่าวของรัฐบาลทราบว่า คนจะมาชุมนุมของตนต้องไม่ต่ำกว่าสองล้านคน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ถ้าหากคนมาน้อย ก็อาจจะยกเลิก ในส่วนที่มีการประโคมข่าวว่ามีเงินสนับสนุน 6 พันล้านบาท อยากถามว่า ตนมีราคาถึงขนาดนั้นหรือ และการใช้เงินในการชุมนุมอย่างมากไม่เกิน 3 ล้านบาท เพราะต้องใช้กับค่าเครื่องเสียง เพื่อควบคุมฝูงชน
พล.อ.บุญเลิศ กล่าวต่อไปถึงการที่ถูกกล่าวหาว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง เช่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันนั้นไม่ใช่ เพราะท่านก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ท่านจะมาร่วมทำงานกับผมในครั้งนี้ และดึงเอา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มาเกี่ยวข้องโดยเชื่อมโยงจากการที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ เข้าร่วมชุมนุมนั้นไม่ใช่เลย
สำหรับกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯระบุว่า อพส. มีทหารแก่และนักการเมืองหนุนหลัง และ พล.อ.บุญเลิศไม่ใช่แกนนำตัวจริงนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ทหารแก่มีจริงเพราะพวกตนก็คือ ทหารแก่ ส่วนทหารหนุ่มนั้น ผบ.ทบ. ก็ประกาศชัดเจน ว่า ไม่เข้าร่วม ส่วนนักการเมืองนั้นยืนยันว่าไม่มีเพราะกลุ่มพวกตนไม่เอานักการเมือง ส่วนที่ว่าตนไม่ใช่แกนนำตัวจริงหรือไม่นั้น โดยการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ผู้ชุมนุมก็เชื่อในสิ่งที่ตนพูด และตนเป็นประธานองค์การพิทักษ์สยามและเหตุที่มีผู้ชุมนุมมาในวันที่ 28 ตุลาคมเป็นจำนวนมากเพราะเชื่อสิ่งที่เราเสนอไป และอยากรู้จักว่า เสธ.อ้ายคือใคร ทั้งนี้ชีวิตตนสบายอยู่แล้ว แต่ที่ออกมาเพราะจำเป็น บ้านเมืองแย่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากการชุมนุมในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ หาก พล.อ.บุญเลิศ ยุติบทบาท จะมีใครเป็นผู้นำมวลชนต่อหรือไม่ พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า หากมีคนอื่นมานำแทน มวลชนจะเชื่อเขาหรือ และในวันที่ 24 พฤศจิกายน หากผู้ชุมนุมมาน้อยโดยอาจวัดจากความจุพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและหากยังทอดไปไม่ถึงทำเนียบรัฐบาลก็จะยุติการชุมนุมในวันนั้น แต่หากคนมามากก็จะดำเนินการต่อตามแผนทีเด็ดที่วางไว้ที่จะล้มรัฐบาลได้อย่างแน่นอนแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น หรือ จะมีใครแฝงตัวเข้ามาก่อความวุ่นวาย เพราะเชื่อว่า สื่อมวลชนและผู้ชุมนุมจะต้องเห็นและช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
ทั้งนี้ หากมีคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการชุมนุม พล.อ.บุญเลิศ บอกว่า ตนคงต้องฝืน จะชุมนุมต่อไป ถ้าจะศาลจะให้ติดคุกก็ว่ากันไป หยุดไม่ได้แล้ว ซึ่งผู้ที่ไปร้องก็เป็นฝ่ายตรงข้าม พูดง่าย ๆ ก็พวกรัฐบาล ทั้งนี้ตนคาดว่า 1-2 วันนี้ ประชาชนก็เริ่มทยอยมากันแล้วเพราะกลัวรัฐบาลสกัดกั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
