x close

คลิป เสธ.อ้าย ประกาศยุติการแช่แข็งประเทศไทย







 
อวสาน ม็อบเสธ อ้าย ประกาศยุติชุมนุม 24 พ.ย. 25155 โพสต์โดยคุณ Redhome9 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก หงส์แดง พิทักษ์สยาม

            เสธ.อ้ายประกาศ ยุติการชุมนุม บอกเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน ผิดหวังการกระทำของตำรวจ กลางวันแสก ๆ ยังถูกแก๊สน้ำตา แต่ยืนยันองค์การพิทักษ์สยามยังอยู่ 


 17.07 น. เสธ.อ้ายประกาศยุติการชุมนุม! แต่ยืนยันองค์การพิทักษ์สยามยังอยู่

           เสธ.อ้ายประกาศ ยุติการชุมนุม บอกเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน ผิดหวังการกระทำของตำรวจ กลางวันแสก ๆ ยังถูกแก๊สน้ำตา แต่ยืนยันองค์การพิทักษ์สยามยังอยู่ 

           โฆษกศอ.รส.แถลงระบุ ได้รับแจ้งการข่าวจากตำรวจภูธรภาค 5 ว่า มีการขนอาวุธจากภาคเหนือเข้ากทม. จึงประสานทุกหน่วยสกัดแล้ว หวั่นก่อเหตุป่วน ทั้งนี้ หลังจากโฆษกศอ.รส.แถลงข่าวไปไม่นาน เสธ.อ้าย ประกาศบอกกลุ่มผู้ชุมนุมยังยึดมั่นในจุดเดิม แต่ไม่ต้องการสร้างความเสียหายแก่ประเทศ และรู้สึกเสียใจต่อการกระทำของตำรวจ จึงประกาศยุติการชุมนุม โดยถือว่าการชุมนุมในวันนี้เป็นผู้ชนะแล้ว จากการหลั่งไหลมารวมกันของมวลชน เสธ.อ้าย ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมทุกคนในวันนี้ และยืนส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านท่ามกลางสายฝน

           โดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังประกาศยุติการชุมนุมว่า หากคนมาน้อยก็จะเลิก และไม่มีครั้งที่ 3 อีกแล้ว ตั้งใจยกเลิกการชุมนุม การชุมนุมไม่มีการทดลอง และเป็นห่วงชีวิตพี่น้องที่มาชุมนุม ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังถูกแก๊สน้ำตา แล้วกลางคืนจะไปเหลืออะไร เสธ.อ้าย กล่าวด้วยว่า ได้บอกประชาชนว่า พล.อ.บุญเลิศ ตายแล้ว อย่างไรก็ดี สำหรับอนาคตองค์การพิทักษ์สยาม พล.อ.บุญเลิศ ยอมรับว่าองค์การพิทักษ์สยามยังอยู่ ส่วนใครจะนำต่อไปนั้น ตนยังไม่ทราบ

         

15.49 น. บีบีซี ตีข่าว ตำรวจไทยใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบ

          สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบที่ประท้วงโค่นล้มอำนาจนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในกรุงเทพมหานคร

          วันนี้ (24 พฤศจิกายน) สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ รายงานว่า ประชาชนอย่างน้อย 10,000 คน ได้ชุมนุมประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วยต่อต้านรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกปฏิวัติไปเมื่อ 6 ปีก่อน โดยกลุ่มผู้จัดการชุมนุม กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหุ่นเชิดของพี่ชาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 7 นาย ได้รับบาดเจ็บในการปะทะกัน ซึ่งตำรวจปราบจลาจล ได้พยายามต่อต้านผู้ประท้วงด้วยโล่พลาสติก ก่อนจะยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่พยายามจะปีนข้ามกำแพงซีเมนต์และลวดหนาม

          ทั้งนี้ บีบีซี อ้างรายงานของรอยเตอร์ส ระบุว่า พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา เพราะคับขันที่ถูกผู้ประท้วงปิดล้อม


14.40 น. เสธ.อ้าย โชว์คลิป ทักษิณ-เสื้อแดง พูดหมิ่นเบื้องสูง

          พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ขึ้นปราศรัยบนเวที พร้อมกับโชว์คลิปแนวร่วมเสื้อแดง ทั้ง นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายใจ อึ๊งภากรณ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายจตุพร พรหมพันธุ์ พูดจาจาบจ้วงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และยังมีคลิปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย แต่ในคลิปดังกล่าวไม่มีเสียงพูด ปรากฏเป็นเพียงภาพนิ่งเท่านั้น

          จากนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า อยากจะชี้ให้พี่น้องเห็นว่า คนกลุ่มนี้ รัฐบาลนี้จาบจ้วงล่วงละเมิดอย่างไร ยังจะเอามันไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าสิ่งที่ตนทำเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตนก็ยอม และจะขอถวายหัวต่อพระเจ้าแผ่นดิน


  14.20 น. สตช. ย้ำ ยึดอาวุธได้จากผู้ชุมนุม จับ 132 คนส่งไปคลองหลวงแล้ว

          พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการประชุมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ว่า การข่าวขณะนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้ชุมุนุมบางส่วนได้มีการเตรียมน้ำกรดไว้จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าอาจเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ หรือเพื่อสร้างสถานการณ์ จึงได้สั่งการให้ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ เตรียมแผนรองรับแล้ว ทั้งนี้ ศอ.รส. ยืนยัน ไม่มีนโยบายสลายการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความสงบเรียบร้อย จนกว่าจะเสร็จสิ้นการชุมนุม และพร้อมขยายพื้นที่ชุมนุม หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมากขึ้นกว่าพื้นที่ที่จะรองรับได้

          อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ชักชวนให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม เพื่อให้เกิดความรุนแรง โดยมีการทำลายทรัพย์สินทางราชการ อาทิ กล้องวงจรปิด รวมถึงมีการตรวจยึดหนังสติ๊กและลูกแก้วจำนวนมาก แสดงถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์

          ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมที่ตำรวจตระเวนชายแดนคลอง 5 จำนวน 132 คน จะเน้นการสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง และให้การดูแลเป็นพิเศษ


13.58 น. ปะทะอีกรอบ! ยิงแก๊สน้ำตาที่แยกมิสกวัน         

          เกิดเหตุปะทะกันอีกระลอกที่แยกสวนมิสกวัน โดยตำรวจได้โยนแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอีกครั้ง ทำให้เกิดความชุลมุนขึ้นอีกครั้ง หลังจากผู้ชุมนุมพยายามลุยฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายไทกร พลสุวรรณ เเกนนำองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวบนเวทีว่า หากตำรวจไม่เปิดเส้นทางจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ผู้ชุมนุมจะเปลี่ยนไปใช้มาตรการเด็ดขาดกับตำรวจ


13.50 น. เสธ.อ้าย ขึ้นเวที ประกาศยอมตาย

          พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้ง โดยประกาศยอมตาย และจะขยายพื้นที่การชุมนุมจากลานพระบรมรูปทรงม้าไปยังสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่ยืนยันจะไม่มีการบุกทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ผู้ชุมนุมเก็บข้าวของรอฟังสัญญาณจากแกนนำ


เสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

ม็อบเสธอ้าย



12.07 น. สรุปผู้บาดเจ็บเหตุปะทะมัฆวาน 11 ราย เป็นตำรวจ 5

          ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินวชิรพยาบาล รายงานตัวเลขล่าสุดผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะ และยิงแก๊สน้ำตา ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเช้านี้ มีทั้งสิ้น 11 ราย เป็นประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม 6 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 5 นาย ในจำนวนนี้ บาดเจ็บสาหัส 2 นาย ประกอบด้วย

          1. จ่าสิบตำรวจ ยุทธพงศ์ จันธิราช
          2. ดาบตำรวจ ภานุวัฒน์ คนเพี้ยน
          3. ดาบตำรวจ เอกพล สรลาภเจริญ
          4. ดาบตำรวจ พรศักดิ์ อารมณ์
          5. ร้อยตำรวจตรี ชอบ แก้วธารี

11.35 น. รอง ผบช.น.เผย แก๊สน้ำตาหมดอายุ ไม่ใช่ของตำรวจ

          พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนต้องมีการใช้แก๊สน้ำตาขว้างใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้กว่า 100 คน พร้อมกันนี้ ได้ยึดรถขยายเสียง และอาวุธหลายประเภทจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งเจรจา ส่วนสถานการณ์ความวุ่นวายยังคงไม่นิ่ง

          อย่างไรก็ตาม กรณีที่ สื่อบางแห่งโพสต์ภาพกระป๋องแก๊สน้ำตาที่หมดอายุลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เป็นแก๊สน้ำตาของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เตรียมมาขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ


11.30 น. สธ. สั่ง 15 จังหวัดรอบ กทม. เตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉิน 30 ทีม 

          นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป ในพื้นที่ปริมณฑลและรอบนอก 15 จังหวัดได้แก่ นนทบุรี , ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ,นครปฐม, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, ชลบุรี, พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, สิงห์บุรี และสระบุรี เตรียมซักซ้อมแผนปฏิบัติการรับมือเหตุฉุกเฉินให้พร้อมจนถึงเมื่อยุติการชุมนุม

          นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้วางแผนระดมทีมแพทย์ไว้ 2 ชุด ประมาณ 30 ทีม เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉิน โดยชุดแรกมี 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี แต่หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นก็จะระดมทีมแพทย์มาอีก 10 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และสระบุรี โดยมีโรงพยาบาลราชวิถีเป็นส่วนหน้าในการประสานงานทีมหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจากต่างจังหวัด


11.02 น. นปช. เผยผ่านเว็บ ให้เสื้อแดงเตรียมพร้อมในที่ตั้ง

          นปช. ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กของนางธิดา ถาวรเศรษฐ โดยให้มวลชนเสื้อแดงเตรียมพร้อมในที่ตั้ง และฟังสัญญาณจาก นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เท่านั้น


10.15 น. โฆษก สตช. แจง ม็อบขับรถชนตำรวจ จึงต้องใช้แก๊สน้ำตา

          พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังมีการใช้แก๊สน้ำตาบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกสวนมิสกวัน กับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อช่วงเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ว่า กลุ่ม ผู้ชุมนุมจำนวนมาก มีความพยายามฝ่าแนวกั้นที่เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางที่ได้มีการกำหนดไว้ บริเวณทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ไม่เป็นผล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยังใช้คีมเหล็กตัดรั้วลวดหนามที่เป็นแนวกั้น จนมาถึงแนวกั้นของตำรวจ พร้อมใช้ด้ามธงตี และใช้รถ 6 ล้อ ผลักดันเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย สาหัส 2 นาย

          ทั้งนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนของหลักสากล เบื้องต้น สามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้จำนวน 100 คน ยึดกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 30 นัด อาวุธมีดจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุมให้ใช้ความอดทนเป็น พิเศษ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง เพื่อยกระดับการชุมนุม ทั้งนี้ เตรียมเสริมกำลังสนับสนุนพร้อมปฏิบัติงาน 38 กองร้อย หากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น


10.03 น. ตำรวจแจงเหตุปะทะม็อบที่สะพานมัฆวานฯ

          รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงเหตุปะทะกันที่สะพานมัฆวานฯ เพราะม็อบพยายามแหกจุดที่ ตร. ไม่ให้เข้า และพยายามขี่ จยย. ชน ตร. ย้ำ ทำตามหลักสากล

          จากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งด่านสกัดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนต้องมีการใช้แก๊สน้ำตาขว้างใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนนั้น ทาง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการข่าวทราบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะผ่านจุดดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ห้ามผ่าน โดยกำหนดให้ผ่านทางแยกวัดเบญจฯ เพียงจุดเดียว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจจนเกิดการกระทบกระทั่ง ก่อนที่จะเข้ารื้อลวดหนาม อีกทั้งมีความพยายามจะขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมีความจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อควบคุมฝูงชนตามหลักสากล


ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย



ม็อบเสธอ้าย

10.00 น. เสธ.อ้าย ขึ้นเวที ประกาศขับไล่รัฐบาล

          พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ได้ขึ้นเวทีด้านหน้าพระบรมรูปทรงม้าเป็นครั้งเเรก พร้อมกับประกาศว่าจะขับไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไปให้ได้
และยืนยันว่า จะขอต่อสู้ด้วยความสงบ แม้โดนตำรวจรังแก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุม ก่อนที่ นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ จะได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศัยโจมตีรัฐบาลเป็นคนต่อไป



ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย

ม็อบเสธอ้าย


09.00 น. ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสกัดม็อบชุมุนม

          วันที่ 24 พฤศจิกายน สถานการณ์การชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคใต้ นำรถบรรทุก 6 ล้อ ติดเครื่องขยายเสียง นำกลุ่มมวลชนเข้าร่วมชุมนุม แต่ยังไม่สามารถเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบใหญ่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ไม่ยอมเปิดทางให้มวลชนเข้าไปในพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยก่อนหน้านี้ มวลชนได้ช่วยกันรื้อรั้วลวดหนาม 3 ชั้น ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณแยกมัฆวานฯ ออกไปไว้ด้านข้าง

          จากนั้น ในเวลาต่อมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้มารวมตัวที่ ลานพระรูปฯ แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขว้างแก๊สน้ำตาขึ้นไปบนรถบรรทุกของแกนนำ และขว้างใส่มวลชนที่มาชุมนุม ส่งผลให้มวลชนต่างวิ่งหนีแก๊สน้ำตาชุลมุน ออกไปคนละทิศละทาง บางคนต้องใช้น้ำล้างหน้า เพราะมีอาการแสบตาและน้ำตาไหลจากแก๊สน้ำตา และบางส่วนได้ขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตะโกนต่อว่าด้วยอารมณ์โมโห

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศทางเครื่องขยายเสียง ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จะเปิดทางให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยสามารถเข้าได้บริเวณวัดเบญจฯ และแยกพล 1 เท่านั้น แต่เส้นทางอื่นจะไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้แล้ว 132 คน

          ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากศูนย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ว่า จากเหตุการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจล กับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และมีการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหลายนัดนั้น ล่าสุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้รวม 4 คน แบ่งเป็นประชาชนที่ร่วมม็อบ 3 ราย อาการโดนแก๊สน้ำตาทำให้ระคายเคือง และตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย มีบาดแผลที่แขน ทั้งหมดนำส่งไปที่ ร.พ.วชิระ แล้ว โดยอาการปลอดภัยทุกคน


08.35 น. ม็อบทยอยรวมตัวลานพระรูปฯ แล้ว เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม

          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ในขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางเข้ามากันอย่างคึกคัก โดยมีการตั้งเวทีใหญ่ และกางเต็นท์ขาวขนาดใหญ่ ตั้งแต่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าจนไปถึงแยกมิสกวัน

          ขณะที่โดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งริมกำแพงสนามเสือป่านั้น ทางกองทัพธรรมได้เตรียมความพร้อม โดยมีการให้บริการพยาบาลกองทัพธรรม และตั้งศูนย์ประสานงาน ส่วนทางฝั่งสวนอัมพรนั้น มีการตั้งโรงครัวเพื่อบริการอาหารและน้ำตลอดทั้งวัน ส่วนของห้องสุขานั้น อยู่บริเวณข้างศูนย์บัญชาการตำรวจนครบาล และข้างสหกรณ์ฝั่งตรงข้ามกำแพงวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยการเดินทางเข้ามาในบริเวณนี้สามารถเดินเท้าเข้ามาได้ 2 ทาง คือจากแยกวัดเบญจฯ และแยกพล 1 เท่านั้น

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามนำรถยนต์ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาโดยเด็ดขาด แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการขออนุญาตนำรถขนคนและอาหารเข้ามา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้เข้ามาได้ แต่ต้องขอตรวจค้นรถอย่างละเอียดทีละคัน และขณะนี้บนเวทีตั้งแต่ช่วงเช้ามีแกนนำทยอยขึ้นพูดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตามกำหนดการ เบื้องต้น ในเวลาประมาณ 08.00 น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะเดินทางมาทำการบวงสรวงที่บริเวณนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้า สมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งลัทธิอโศกจะนำกลุ่มผู้ชุมนุมสวดมนต์ ธรรมเทศนา 30 นาที เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อผู้ชุมนุม

          ในส่วนของสื่อมวลชน ทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการให้เซ็นชื่อเพื่อรับปลอกแขนสีเหลืองทองบริเวณด้านหลังเวทีด้วย

          ส่วนที่อาคารรัฐสภา ในวันนี้ ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อรับมือสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เนื่องจากต้องเตรียมสถานที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ โดยได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 2 กองร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจนครบาล 1 กองร้อย รวมทั้งหมดเป็น 450 นาย ในการคอยควบคุมดูแลพื้นที่ภายในอาคารรัฐสภา

          นอกจากนี้ ด้านนอกยังมีเจ้าหน้าที่ภูธรภาค 5 จำนวน 8 กองร้อย หรือกว่า 1,200 นาย ที่ยังคงทยอยเดินทางมาประจำการบริเวณด้านหน้า เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบนอกถนนรัฐสภา ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ได้มีการปิดถนนโดยรอบรัฐสภาแล้ว พร้อมตั้งจุดตรวจในทุก ๆ ทางเข้า-ออก

08.27 น. โฆษก อพส.ยันเข้มงวด รปภ.คู่แบ่งโซน 3 ชั้น

          พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ทางองค์การพิทักษ์สยาม มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ 3 ชั้น ทั้งใน นอก และกลางพื้นที่ชุมนุม ตลอดจนจะจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนโดยรอบพื้นที่ เพื่อป้องกันภัยคุกคาม พร้อมยืนยันมีคนเข้าร่วมชุมนุม 5 แสนคน แต่ขณะนี้มีการรายงานข่าวแจ้งมาว่า มีการข่มขู่ผู้ประกอบการเดินรถ เพื่อขัดขวางการเข้าร่วมชุมนุม ซึ่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ประกอบการถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว

          "ละเอียดถี่ถ้วน ครบถ้วนทุกโซนนะครับ จริง ๆ แล้ว เราเตรียมเจ้าหน้าที่เต็ม 3 ส่วน ส่วนชั้นใน ส่วนชั้นกลาง และรอบนอก" พล.อ.ท.วัชระ กล่าว

          นอกจากนี้ พล.อ.ท.วัชระ ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมในวันนี้ เพราะทาง อพส.ประสานกับตำรวจในการดูแลความปลอดภัยแล้ว พร้อมขอให้รับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะเป็นผู้รู้กฎหมาย และ อพส. ได้ชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย


08.13 น. เสธ.อ้าย ยัน มีไม้เด็ดไล่รัฐ แต่ขออุบไว้ก่อน

          พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หริอ อพส. กล่าวถึงการชุมนุมในวันนี้ว่า ขณะนี้ตนมีความพร้อมมาก และเชื่อมั่นว่าประชาชนหลายแสนคนจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน แต่เป็นลักษณะทยอยเดินทางกันมา และหากมวลชนมากันจำนวนมาก จนทะลักพื้นที่ที่ตำรวจปิดกันไว้ จะใช้วิธีเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ปิดกั้นไว้ โดยไม่สนับสนุนให้มีการปะทะกันแต่อย่างใด เพราะเคยประกาศกับมวลชนไว้แล้วว่า ทาง อพส.จะชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ยึดสถานที่ราชการ และมีการศึกษามาแล้ว ว่า การเข้าไปชุมนุมในพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 นั้น ไม่ผิด เพราะว่าผู้ชุมนุมไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย

          อย่างไรก็ตาม เสธ.อ้าย ยังระบุอีกว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ หากยังไม่สามารถที่จะขับไล่รัฐบาลได้ ตนเองพร้อมที่จะยุติการชุมนุม แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า มีทีเด็ดที่จะขับไล่รัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในขณะนี้

07.00 น. ตำรวจตรึงเข้มรอบแยกวัดเบญจฯ-ปิดจราจร 9 เส้นทาง

          ที่บริเวณแยกวัดเบญจฯ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจคัดกรองบุคคล ที่จะผ่านเจ้าไปในพื้นที่การชุมนม บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมาวางกั้นไว้ตลอดแยก เพื่อไม่ให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม แต่หากประชาชนที่จะเดินทางเข้าไป ต้องใช้วิธีการเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น แต่ต้องผ่านการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ขณะที่มวลชนยังคงทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีความวุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น

          สำหรับถนน 9 สาย ที่ได้ประกาศให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง ประกอบด้วย

            1. ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ถึงแยกสวนมิสกวัน
            2. ถนนลูกหลวง ตั้งแต่สะพานวิศสุกรรมนฤมาณถึงสะพานเทวกรรม
            3. ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดงถึงแยกพาณิชย์
            4. ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานอรทัยถึงแยกวัดเบญจมบพิตรฯ
            5. ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ถึง ถนนลูกหลวง
            6. ถนนลิขิต 
            7. ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถี
            8. ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึง ถนนราชวิถี
            9. ถนนอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต (ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า)



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   ,สปริงนิวส์       




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คลิป เสธ.อ้าย ประกาศยุติการแช่แข็งประเทศไทย โพสต์เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา 08:40:43 13,200 อ่าน
TOP