เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
เอแบคโพลล์ เผย ผลสำรวจการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ พบ ร้อยละ 68.6 ยังคงไว้วางใจยิ่งลักษณ์ให้เป็นนายกฯ ต่อ รวมถึงรัฐมนตรีตำแหน่งอื่น และก็จะเลือกพรรคเดิม หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะมีนโยบายที่ช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยที่จับต้องได้
วันนี้ (28 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง : เสียงสะท้อนของผู้ติดตามชมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,231 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 26 – 27 พฤศจิกายน 2555 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย นราธิวาส และสงขลา
จากผลสำรวจจากการสอบถามประเด็นต่าง ๆ ของข้อมูลในการอภิปรายระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เช่น การให้ข้อมูลใหม่ ข้อมูลชัดเจน ความน่าเชื่อถือ พูดได้ตรงใจ เป็นห่วงเป็นใยประชาชน และนโยบายแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน พบว่า
ประเด็นการให้ข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน พบว่า ฝ่ายค้าน ได้ร้อยละ 45.0 ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 29.8 ประเด็นข้อมูลชัดเจน จับต้องได้ พบว่า ฝ่ายค้าน ได้ร้อยละ 44.8 ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 31.3 ประเด็นความน่าเชื่อถือของข้อมูล พบว่า ฝ่ายค้าน ได้ร้อยละ 43.5 ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 36.1 ประเด็นที่พูดได้ตรงตามความคาดหวัง ฝ่ายค้านได้ร้อยละ 36.8 ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 48.7 ที่น่าสนใจ คือ ประเด็นความห่วงใยประชาชนธรรมดาทั่วไป พบว่า ฝ่ายค้าน ได้ร้อยละ 46.2 ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 47.8 ประเด็นนโยบายแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน พบว่า ฝ่ายค้านได้ร้อยละ 38.7 แต่ฝ่ายรัฐบาล ได้ร้อยละ 57.2ในด้านความไว้วางใจของประชาชนที่ติดตามการอภิปรายครั้งนี้ต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย พบว่า ร้อยละ 68.6 ยังคงไว้วางใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ร้อยละ 31.4 ไม่ไว้วางใจ รองลงมาคือ ร้อยละ 56.1 ไว้วางใจ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะที่ร้อยละ 43.9 ไม่ไว้วางใจ และร้อยละ 53.2 ไว้วางใจ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ในสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แต่ร้อยละ 46.8 ไม่ไว้วางใจ ร้อยละ 50.6 ไว้วางใจ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะที่ร้อยละ 49.4 ไม่ไว้วางใจ ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.8 คิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเมื่อสอบถามถึงความพึงพอใจต่อฝ่ายการเมืองในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า คะแนนออกมาค่อนข้างดีทั้งสองฝ่ายและสูสีกันคือ ฝ่ายค้าน ได้ 6.42 ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้ 6.34 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว พบว่า ร้อยละ 56.9 ระบุว่า ควรปรับคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นออก เพราะถ้าไม่ปรับจะทำให้เสื่อมความนิยมศรัทธาต่อรัฐบาล เกรงจะเกิดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลอีก บ้านเมืองจะวุ่นวายอีก ในขณะที่ร้อยละ 43.1 ระบุยังไม่ควรปรับ เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในรัฐบาล กลุ่มนายทุนพรรคจะไม่พอใจ ข้อมูลฝ่ายค้านยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ รัฐมนตรีชี้แจงได้ คนที่ถูกกล่าวหายังไม่มีโอกาสชี้แจง และต้องให้โอกาสทำงานต่อไปก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
