x close

NOAA เผยโลกร้อนเข้าขั้นวิกฤติ ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูง 8 นิ้วภายในปี 2100


โลกร้อนเข้าขั้นวิกฤติ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ดิอินดิเพนเดนท์ รายงานว่า องค์กรสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เผย น้ำแข็งขั้วโลกละลายและซูเปอร์สตอร์ม เป็นสัญญาณสำคัญที่กำลังบอกให้โลกรู้ว่า ภาวะโลกร้อนกำลังเข้าขั้นวิกฤติ มนุษย์ควรลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีก ขณะที่สำนักงานจัดการด้านบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) เผยระดับน้ำทะเลมีวี่แววจะเพิ่มสูงอย่างน้อย 8 นิ้วภายในปี 2100 ส่งผลให้น้ำท่วมชายฝั่งทะเลทั่วโลก

          โดยจากรายงานต่าง ๆ ที่ทางคณะกรรมการได้นำมาเปิดเผยในที่ประชุมว่าด้วยเรื่องโลกร้อน ที่กรุงโดฮาของกาตาร์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา มิเชล จาร์รอด ประธานสำนักเลขาธิการด้านภาวะโลกร้อนของสหประชาชาติ ได้เปิดเผยว่า "ภาวะโลกร้อนตอนนี้กำลังเข้าขั้นวิกฤติ และนี่คือตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังภัยพิบัติร้ายแรงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์น้ำแข็งขั้วโลกละลายในปริมาณที่สูงขึ้น ส่งผลให้สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวน ไปจนถึงเหตุภัยพิบัติครั้งร้ายแรงอย่างเฮอริเคนแซนดี้ที่พัดถล่มสหรัฐฯ เหตุการณ์เหล่านี้กำลังส่งสัญญาณให้เรารู้ว่า เราต้องทำอะไรสักอย่างอย่างจริงจังแล้ว ที่ผ่านมาโลกเราต้องเผชิญกับความแปรปรวนด้านสภาพอากาศทั่วโลก และทุกคนก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ถ้าหากมนุษย์ไม่ลงมือทำอะไรเพื่อรักษาโลกตอนนี้"

          ส่วนทางด้าน เป็ป คานาเดล หัวหน้าโครงการโกลบอล คาร์บอน จากสำนักวิจัยประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีความหวังว่าจะสามารถชะลอวิกฤติโลกร้อน โดยรณรงค์ให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดการเพิ่มอุณหภูมิของโลกให้อยู่ที่ไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส แต่ตอนนี้ ความเป็นไปได้ที่จะลดการเพิ่มอุณหภูมิของโลกนั้นแทบจะไม่มีแล้ว ปัจจุบันทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากกว่าปี 1990 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่านับจากปีนี้ ทั่วโลกจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอีกปีละ 3 เปอร์เซ็นต์

           ขณะเดียวกัน ทางด้านสำนักงานจัดการด้านบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูง อันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนว่า ตอนนี้มหาสมุทรทั่วโลกมีแนวโน้มสูงที่ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นจากระดับน้ำทะเลที่วัดได้ในปี 1992 อย่างน้อย 8 นิ้ว แต่ไม่เกิน 2 เมตร ภายในปี 2100 โดยสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าว มาจากภาวะโลกร้อนได้ทำให้แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ละลายอย่างรวดเร็ว และหากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงดังที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้ประชาชนกว่า 8 ล้านคนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ และนี่ยังไม่รวมกับประชาชนประเทศอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเล ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักบริเวณชายฝั่งในอนาคต

           นอกจากนี้ สำนักงานจัดการด้านบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า ดูเหมือนว่าภาวะโลกร้อนนี้จะยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องของโลกใบนี้ไปเรื่อย ๆ ในอีก 100 ปีข้างหน้า และระดับน้ำทะเลก็ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเพิ่มระดับเช่นกัน

           ทั้งนี้ รายงานเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนจากหลายหน่วยงานข้างต้น สอดคล้องกับงานวิจัยจากศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะขั้วโลกที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจพบว่า แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกเหนือและใต้ กำลังละลายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรีนแลนด์ (ขั้วโลกเหนือ) แผ่นน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วมาก เร็วกว่าเมื่อ 20 ปีก่อนถึง 3 เท่า นับว่าเป็นสัญญาณเตือนว่าโลกจะได้รับผลกระทบหนักในอนาคต ถ้าหากมนุษย์ยังไม่หยุดหรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
NOAA เผยโลกร้อนเข้าขั้นวิกฤติ ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูง 8 นิ้วภายในปี 2100 โพสต์เมื่อ 6 ธันวาคม 2555 เวลา 14:25:45 2,793 อ่าน
TOP