เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
2 โจรวัยรุ่น ลวงคนขับรถแท็กซี่โดยว่าจ้างมาจากสมุทรปราการให้ไปส่งที่เปลี่ยว ก่อนออกลายปล้นทรัพย์ และชิงรถแท็กซี่ แต่สุดท้ายไปไม่รอด ขับรถแหกโค้งบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวานนี้ (12 ธันวาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ ที่บริเวณข้างโรงงานน้ำตาลรีไฟด์ ชัยมงคล ริมถนนสายอู่ทอง-ด่านช้าง ต.หนองโอ่ง จึงรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบ นายวิรัตน์ ทับทอง อายุ 37 ปี สภาพใบหน้าและลำคอมีรอยถลอก ตาแดงก่ำ เสื้อผ้ามีคราบเลือด ยืนตัวสั่นรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างทาง จึงนำตัวมาสอบสวน
นายวิรัตน์ ให้การว่า ตนประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้างของสหกรณ์แท็กซี่อิสระ โดยใช้รถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรร่า สีชมพู ทะเบียน ทว 7313 กรุงเทพมหานคร ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ว่าจ้างจาก จ.สมุทรปราการ ให้มาส่งที่ อ.อู่ทอง ในราคา 1,600 บาท เมื่อขับรถมาถึง อ.อู่ทอง คนร้ายให้ตนขับรถวนเวียนในที่เปลี่ยวบริเวณใกล้วัดเขาพระศรีสรรเพชรญาราม ตนเห็นผิดสังเกตจึงพยายามขับหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่พบ
กระทั่งรถวิ่งมาถึงข้างโรงงานน้ำตาล คนร้ายได้ใช้มือล็อกคอตนพร้อมบังคับเอาเงินและทรัพย์สินมีค่า เมื่อตนบอกไม่มี คนร้ายจึงชกต่อยเข้าที่ใบหน้า จมูก และปากของตนหลายครั้ง แล้วล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อซึ่งมีอยู่ 100 กว่าบาท ตนจึงยกมือไหว้ขอชีวิต พร้อมบอกว่าอยากได้อะไรก็เอาไปเลย คนร้ายจึงให้ตนลงจากรถ ก่อนขับรถของตนหลบหนีไป
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งอุบัติรถแท็กซี่พลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ห่างจากจุดเกิดเหตุเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร จึงไปตรวจสอบ พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทว 7313 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ในนาข้าวข้างทาง สภาพพังเสียหายทั้งคัน ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ นายเจนณรงค์ ลาน้อย อายุ 20 ปี และนายชลธิต ยิ้มสงวน อายุ 23 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ยังไม่สามารถให้การได้จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลอู่ทอง
จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นคันเดียวกับที่ถูกคนร้ายชิงไปก่อนหน้านี้ ส่วนสาเหตุคาดว่า คนร้ายคงขับรถไม่แข็ง และด้วยความรีบร้อนจึงเสียหลักพลิกคว่ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย โดยจะรอให้ผู้ต้องหาอาการดีขึ้น ก่อนสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาอีกครั้ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
