เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก livescience.com
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เว็บไซต์ livescience.com รายงานว่า ซูซาน ฮาเยส นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยวอลลองกอง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ได้สร้างภาพจำลองใบหน้าของฮอบบิทหญิง มนุษย์แคระที่เคยมีอยู่จริงบนโลก หรือมนุษย์โบราณสปีชีส์โฮโมฟลอเรไซเอ็นซิส (Homo floresiensis) โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ประมวลภาพสามมิติของชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์โบราณเพศหญิงที่พบบนเกาะในอินโดนีเซีย
รายงานระบุว่า ซูซาน ฮาเยส ค้นพบโครงกระดูกดังกล่าวในถ้ำเหลียงบัว บนเกาะฟลอเรส อันห่างไกลของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2003 (พ.ศ. 2546) หลังจากนั้นเธอได้โหลดภาพสแกน 3 มิติของกระโหลกฮอบบิตเข้าในโปรแกรมสร้างภาพกราฟิกทางคอมพิวเตอร์ โดยภาพดังกล่าวได้รับการปรับให้เป็นภาพวาดคนโดนศิลปินบรรพชีวินทางด้านฮอบบิท โดยก่อนหน้านี้ภาพดังกล่าวถูกบิดเบือนไปเหมือนลักษณะของลิง แต่ลักษณะใหม่ของเธอได้รับการปรับให้ดูเป็นคนมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงกระดูกของฮอบบิทหญิงที่ถูกค้นพบในอินโดนีเซียนี้มีอายุราว 18,000 ปี โดยมีอายุราว 30 ปี และสูง 1 เมตร ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักวิทยาศาสตร์อยู่ โดยฝ่ายแรกเชื่อว่า โครงกระดูกดังกล่าวเป็นตัวแทนของสปีชีส์ในเครือญาติมนุษย์ที่สูญพันธุ์แล้ว โดยอาจเป็นเพียงคนแคระของ โฮโมอิเร็กตัส (Homo erectus) และเป็นมนุษย์สายพันธุ์แรกที่มีสัดส่วนร่างกายเทียบเคียงกับมนุษย์ยุคใหม่ โฮโมซาเปียนส์ (Homo sapiens)
ขณะอีกฝ่ายหนึ่งโต้แย้งว่า น่าจะเป็นมนุษย์อีกสปีชีส์หนึ่ง เนื่องจากมนุษย์โบราณดังกล่าวไม่ได้แค่มีสมองที่เล็ก แต่ยังมีรูปร่างสมองที่แตกต่างจากมนุษย์อื่นอย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับผลการศึกษาเมื่อปี 2007 (พ.ศ. 2550) ที่ระบุว่า สมองของฮอบบิตนี้มีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของสมองมนุษย์ผู้ใหญ่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังอ้างถึงงานวิจัยโดย แมทธิว โทเชอริ นักมานุษยวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ดีซี ซึ่งพบว่า ทั้งรูปร่างและการหมุนของกระดูกสะโพกของฮอบบิทหญิงนี้ตรงกับลิงเอป และดูต่างอย่างมากจากกระดูกสะโพกของนีแอนเดอร์ทัลหรือโฮโมนีแอนเดอร์ทัลเอ็นซิส (Homo neanderthalensis) และมนุษย์ปัจจุบัน ดังนั้นจึงชี้ได้ว่าฮอบบิทคือมนุษย์ที่ถูกจำแนกได้ว่าเป็นอีกสปีชีส์อย่างชัดเจน
ขอบคุณภาพประกอบจาก livescience.com
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เว็บไซต์ livescience.com รายงานว่า ซูซาน ฮาเยส นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยวอลลองกอง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ได้สร้างภาพจำลองใบหน้าของฮอบบิทหญิง มนุษย์แคระที่เคยมีอยู่จริงบนโลก หรือมนุษย์โบราณสปีชีส์โฮโมฟลอเรไซเอ็นซิส (Homo floresiensis) โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ประมวลภาพสามมิติของชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์โบราณเพศหญิงที่พบบนเกาะในอินโดนีเซีย
รายงานระบุว่า ซูซาน ฮาเยส ค้นพบโครงกระดูกดังกล่าวในถ้ำเหลียงบัว บนเกาะฟลอเรส อันห่างไกลของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2003 (พ.ศ. 2546) หลังจากนั้นเธอได้โหลดภาพสแกน 3 มิติของกระโหลกฮอบบิตเข้าในโปรแกรมสร้างภาพกราฟิกทางคอมพิวเตอร์ โดยภาพดังกล่าวได้รับการปรับให้เป็นภาพวาดคนโดนศิลปินบรรพชีวินทางด้านฮอบบิท โดยก่อนหน้านี้ภาพดังกล่าวถูกบิดเบือนไปเหมือนลักษณะของลิง แต่ลักษณะใหม่ของเธอได้รับการปรับให้ดูเป็นคนมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงกระดูกของฮอบบิทหญิงที่ถูกค้นพบในอินโดนีเซียนี้มีอายุราว 18,000 ปี โดยมีอายุราว 30 ปี และสูง 1 เมตร ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักวิทยาศาสตร์อยู่ โดยฝ่ายแรกเชื่อว่า โครงกระดูกดังกล่าวเป็นตัวแทนของสปีชีส์ในเครือญาติมนุษย์ที่สูญพันธุ์แล้ว โดยอาจเป็นเพียงคนแคระของ โฮโมอิเร็กตัส (Homo erectus) และเป็นมนุษย์สายพันธุ์แรกที่มีสัดส่วนร่างกายเทียบเคียงกับมนุษย์ยุคใหม่ โฮโมซาเปียนส์ (Homo sapiens)
ขณะอีกฝ่ายหนึ่งโต้แย้งว่า น่าจะเป็นมนุษย์อีกสปีชีส์หนึ่ง เนื่องจากมนุษย์โบราณดังกล่าวไม่ได้แค่มีสมองที่เล็ก แต่ยังมีรูปร่างสมองที่แตกต่างจากมนุษย์อื่นอย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับผลการศึกษาเมื่อปี 2007 (พ.ศ. 2550) ที่ระบุว่า สมองของฮอบบิตนี้มีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของสมองมนุษย์ผู้ใหญ่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังอ้างถึงงานวิจัยโดย แมทธิว โทเชอริ นักมานุษยวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ดีซี ซึ่งพบว่า ทั้งรูปร่างและการหมุนของกระดูกสะโพกของฮอบบิทหญิงนี้ตรงกับลิงเอป และดูต่างอย่างมากจากกระดูกสะโพกของนีแอนเดอร์ทัลหรือโฮโมนีแอนเดอร์ทัลเอ็นซิส (Homo neanderthalensis) และมนุษย์ปัจจุบัน ดังนั้นจึงชี้ได้ว่าฮอบบิทคือมนุษย์ที่ถูกจำแนกได้ว่าเป็นอีกสปีชีส์อย่างชัดเจน
