เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ NASAtelevision สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดในหน้าสื่อขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ที่คนหลายกลุ่มเชื่อกันมาตลอดว่าเป็นวันสิ้นโลก ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันแล้วว่าโลกไม่แตกแน่นอน แต่เรื่องนี้ก็ยังได้รับการพูดถึงอยู่ไม่สร่างซา ล่าสุด นาซ่าได้เปิดเผยคลิปวิดีโอน่าสนใจออกมาคลิปหนึ่ง เป็นความจริงเกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นคลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า "The World Didn't End Yesterday" หรือ โลกไม่ได้แตกเมื่อวานนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะจัดทำขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 หรือก็คือหลังวันโลกแตก 1 วัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ ๆ ถึงได้เผยแพร่ออกมาก่อนกำหนดถึง 11 วัน
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคงไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่เนื้อหาภายในคลิปวิดีโอนี้มากกว่า โดยมีการไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก และลบล้างความเชื่อเรื่องโลกแตกที่เคยมีมาตลอดได้ดีเลยทีเดียว
เนื้อหาในคลิปเริ่มต้นขึ้นด้วยประโยคที่ว่า "ถ้าหากพวกคุณได้ดูคลิปวิดีโอคลิปนี้ นั่นหมายถึงว่า โลกของเราไม่ได้อวสานไปเมื่อวานนี้" ก่อนที่จะอ้างคำยืนยันของดอกเตอร์จอห์น คาร์ลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์สมัยโบราณว่า ตลอด 35 ปีที่เขาศึกษาด้านดาราศาสตร์โบราณ และได้ศึกษาปฏิทินมายา เขาพบว่าปฏิทินมายาถูกนำไปตีความผิดต่าง ๆ นานามาหลายปีแล้ว จริง ๆ แล้วปฏิทินมายาไม่ได้ระบุเลยสักนิดว่า โลกจะถึงกาลอวสานในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ มันเป็นแค่การสิ้นสุดรอบปฏิทินรอบหนึ่งตามหลักเทววิทยาของชาวมายันเท่านั้น เปรียบเสมือนกับปฏิทินรอบปีของคนทั่วโลก ที่สิ้นสุดที่วันที่ 31 ธันวาคม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากวันนั้นจะไม่มีวันใหม่ หรือจะเป็นวันที่โลกแตก
นอกจากนี้ นาซายังเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับดาวนิบิรุ ที่ชาวสุเมเรียนค้นพบตั้งแต่โบราณกาล และมีความเชื่อว่าดาวดวงนี้จะชนกับโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ว่า ไม่มีดาวนิบิรุตามความเชื่อแต่อย่างใด และเร็ว ๆ นี้ ก็จะไม่มีดาวหรืออุกกาบาตที่ไหนพุ่งชนโลกด้วย เพราะถ้าหากจะมีดาวหรืออุกกาบาตพุ่งชนโลกจริง ๆ ป่านนี้คนบนโลกคงจะได้เห็นจุดเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนฟ้าช้า ๆ และขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ให้เราได้เห็นเป็นเวลานานนับสัปดาห์หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว ที่สำคัญ หากมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น นาซาก็คงจะตรวจสอบพบก่อนมันจะชนโลกล่วงหน้าได้เป็นสิบปีร้อยปี
ส่วนความเชื่อที่ว่า แม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนขั้ว จนทำให้ทุกอย่างบนพื้นผิวโลกแปรปรวน เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ไปพร้อม ๆ กันทั่วโลกนั้น ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้แต่อย่างใด และถ้าหากจะเกิดขึ้น ก็ต้องใช้เวลานานนับล้าน ๆ ปี ไม่ได้เกิดขึ้นคราวเดียวอย่างที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ ที่สำคัญ ระหว่างที่แกนแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้ว สิ่งมีชีวิตบนโลกก็จะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลยด้วย
ดังนั้น จึงไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องโลกแตก แต่เป็นเรื่องโลกร้อนที่เห็นผลกระทบชัดเจนขึ้นทุกวัน เราจึงควรร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ดีกว่า เพราะโลกร้อนนี่แหละ ที่เป็นตัวการทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก และเกิดภัยพิบัติทั่วโลก จนนำมาซึ่งความสูญเสียดังที่เคยเกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา