สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
องค์กรสำคัญในต่างประเทศ ต้องปิดเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ชั่วคราว หลังมีประชาชนเข้ามาโพสต์ถามเกี่ยวกับวันโลกแตกจำนวนมาก ขณะที่ชาวมายาในกัวเตมาลาประท้วงเรียกร้องสิทธิ์ หลังถูกสั่งห้ามเข้าโบราณสถานในเมืองติกัล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ตลอดทั้งวันที่ 21 ธันวาคม ในโลกสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ต่างก็โพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องโลกแตก โดยบางคนพยายามถ่ายภาพตัวเองและครอบครัว พร้อมระบุเวลาเกือบทุกชั่วโมง เพื่อแสดงให้เห็นว่า โลกยังไม่แตกและยังมีชีวิตอยู่ ส่วนบางคนก็สังสรรค์ เพื่อเตรียมตัวรับวันสิ้นโลก และบางคนก็เฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวันสิ้นโลกอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับคำถามตามมาว่า หากโลกแตกจริง ๆ จะทำอะไรกันดี
ทั้งนี้ กระแสวันสิ้นโลกดังกล่าว ทำให้เฟซบุ๊กขององค์กรสำคัญในต่างประเทศต้องปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากเข้าไปโพสต์บนกระดานข้อความ เพื่อถามในทำนองเดียวกันว่า มีใครรอดชีวิตจากคำทำนายวันสิ้นโลกบ้างหรือไม่ จนท้ายที่สุด ผู้ดูแลระบบต้องเข้าไปโพสต์ข้อความกลับ เพื่อเป็นการตัดปัญหาว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่
ขณะที่ในเวลาเดียวกัน นักเคลื่อนไหวชนเผ่ามายาได้ออกมา ประท้วงบริเวณด้านนอกซากปรักหักพังโบราณในเมืองติกัล เพื่อเรียกร้องให้นานาประเทศเห็นสภาพที่เลวร้ายของพวกเขา ในช่วงกำลังจัดงานฉลองการสิ้นสุดปฏิทินโบราณของชาวมายาที่มีอายุ 5,125 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ พวกเขาได้ถือแผ่นป้ายประณามโครงการเหมืองและน้ำมันที่เกิดขึ้นในดินแดนของพวกเขา รวมถึงเรียกร้องสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษาด้วย
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า ผู้ประท้วงชาวมายาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโบราณสถาน ซึ่งใช้เป็นที่จัดงานเฉลิมฉลอง ต่างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นั่นจำนวนมาก กลุ่มผู้ประท้วงจึงรู้สึกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ จากข้อมูลองค์การสหประชาชาติ เยาวชนชนพื้นเมืองในกัวเตมาลากว่าครึ่ง ไม่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา และมีอัตราการเสียชีวิตในเด็ก รวมถึงขาดสารอาหารสูงกว่าชาวกัวเตมาลาอื่น ๆ
