เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จากกรณีที่ เมื่อคืนวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินจากเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน เข้ามาในงานเลี้ยงปีใหม่คนเสื้อแเดง ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า จำต้องแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันเรื่องนี้ เป็นภารกิจของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ในขณะการโหวตวาระ 3 เลยนั้น สามารถดำเนินการได้ แต่จะไม่ผ่าน 2 ขั้นตอน คือ 1. เสียงไม่ถึง 326 หรือ ครึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และ 2. ศาลรัฐธรรมนูญอาจบอกขัดคำสั่งศาล ดังนั้นเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญใหม่ จึงต้องทำประชามติ ส่วนการที่มีหลายฝ่ายกลัวว่า เสียงประชาชนในการลงประชามติ จะไม่ผ่านนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มีความมั่นใจว่า ประชาชนจะต้องออกมาใช้สิทธิ์ เกิน 24.3 ล้านเสียง แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด วันนี้ (23 ธันวาคม) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตอนนี้ การออกเสียงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เสนอให้ลงมติวาระ 3 ในขณะที่รัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้เดินหน้าออกเสียงประชามตินั้น สุดท้ายเชื่อว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่ทักษิณต้องการ เพราะที่ผ่านมา อำนาจเด็ดขาดทั้งในพรรคเพื่อไทยและในขบวนการคนเสื้อแดงอยู่ที่นายใหญ่คนนี้
พร้อมกันนี้ นายสุริยะใส ยังเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการจัดให้มีการออกเสียงประชามติจะเป็นเพียงพิธีกรรมสร้างความชอบธรรมในการฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายเท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนหรือเพื่อประเทศชาติอย่างที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง
นายสุริยะใส ยังกล่าวปิดท้ายว่า หากรัฐบาลไม่สามารถลบข้อครหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ ก็จะยิ่งสร้างความแตกแยกให้กับสังคมมากขึ้น ถึงตอนนั้นประเทศไทยก็คงเดินตามรอยประเทศอียิปต์ที่มีแต่ความแยกแยกในประเทศก็เป็นได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
