เขาพระวิหาร
เขาพระวิหาร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สุรพงษ์ รับ คดีเขาพระวิหาร ไทยเอาชนะยาก มีแต่เสมอตัวกับแพ้ แต่จะสู้ให้ถึงที่สุด พร้อมเผย 3 แนวทางเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อวานนี้ (1 มกราคม) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยเรื่องการสู้คดีปราสาทพระวิหารของไทยว่า เป็นคดีที่น่าหนักใจมาก มีแต่เสมอตัวกับแพ้เท่านั้น คือถ้าแพ้ก็เสียดินแดน ถ้าหากเสมอตัวก็คงคำพิพากษาปี 2505 เอาไว้ คือ ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา พื้นที่รอบปราสาทเป็นของไทย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า หลังจากก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เหมือนกับสหภาพยุโรป เรื่องเขตแดนก็จะไม่มีความหมายในทันที ทั้งนี้ ตนแบ่งคดีดังกล่าวออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน
1. การปฏิบัติตามคำสั่งเรื่องมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) คือ การระบุจุดพื้นที่ เอ-บี-ซี-ดี ของพื้นที่เขตปลอดทหารชั่วคราวให้แน่ชัดทั้ง 2 ฝ่าย และต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิดไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2556 โดยทางรัฐบาลจะเริ่มเก็บกู้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
2. การให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาปี 2505 ในกรณีนี้ศาลโลกจะรับฟังการชี้แจงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 15-19 เมษายนนี้ และจะใช้เวลาอีก 6 เดือนในการพิพากษาคดี โดยภายในเดือนกุมภาพันธ์ ตนจะประชุมกับคณะที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยู่ในคณะด้วย เพื่อรับฟังแนวทางที่จะไปชี้แจงต่อศาลโลกเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ไปชี้แจง ตนคงไม่ได้ไปด้วย
3. การเร่งสร้างความรู้เรื่องเขาพระวิหารแก่ประชาชนว่า รัฐบาลชุดที่แล้วทำอะไรลงไป จึงทำให้กัมพูชาต้องไปฟ้องศาลโลก โดยจะออกเป็นรายการและสารคดีต่าง ๆ นอกจากนี้ จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อประชาชน รวมถึงการจัดทำเอกสารแจก เพราะถ้าหากศาลโลกตัดสินได้ไม่ถูกใจ อาจจะเป็นโอกาสให้คนบางกลุ่มสามารถนำข้อมูลผิด ๆ ไปชักจูงให้เกิดปัญหาได้ เนื่องจาก ถ้าหากไทยขัดขืนศาลโลก อาจจะทำให้อยู่อย่างลำบาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
