เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สภาอุตสาหกรรมฯ ชี้ ภายในไตรมาส 2 เอสเอ็มอีปิดกิจการ 5-10% จากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท โดยธุรกิจประเภทใช้แรงงานมากจะกระทบมากสุด
วันนี้ (2 มกราคม) นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาว่า เชื่อว่าผู้ประกอบการอาจจะปรับราคาสินค้าเพิ่มตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มที่เน้นในการจำหน่ายในประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะต้นทุนต่างเพิ่มเหมือนกันหมด แต่กลุ่มผู้ส่งออกจะมีผลกระทบแน่นอน เพราะถ้าหากปรับราคาตามต้นทุน อาจจะไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศได้ เนื่องจากมีราคาสูงเกินไป
นายพยุงศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง จะเห็นผลได้ชัดภายในไตรมาส 2 และคงไม่มีปัญหากับธุรกิจทุกประเภท เพราะธุรกิจบางอย่างอาจจะไม่ใช้ค่าแรงเป็นต้นทุนหลัก อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการบรรเทาผลกระทบเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดยการผ่อนปรนเรื่องราคาสินค้า เพื่อที่จะให้กลไกตลาดทำงานได้อย่างเสรี แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรให้เกิดการค้ากำไรเกินควร เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
ขณะที่นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุดคือ เอสเอ็มอีที่ใช้แรงงานมาก เช่น ภาคบริการ ภาคการเกษตร คาดว่าภายในไตรมาสที่ 2 จะมีการปิดตัวร้อยละ 5-10 ของธุรกิจทั้งหมด ดังนั้นอยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเหล่านี้ด้วย เช่น การจ่ายชดเชยค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลก็ได้ทยอยทำในโครงการอื่น ๆ ไปแล้ว เช่น รถคันแรกคืนภาษีรวม 9 หมื่นล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
