x close

สุริยะใส แนะแนวทางแก้ปัญหา เหนือเมฆ 2 ให้ย้ายช่องอื่น




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพปะกบจาก เฟซบุ๊ก สุริยะใส กตะศิลา

            สุริยะใส โพสต์เฟซบุ๊ก เสนอทางออกละครเหนือเมฆให้ย้ายไปเล่นช่องอื่น กดดันผู้บริหารช่อง 3 ให้ละครได้ออกอากาศต่อจนจบ ชี้เกิดชายชุดดำในวงการทีวีไทยแล้ว

            วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา  นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สุริยะใส กตะศิลา แสดงความคิดเห็นกรณีสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ยุติออกอากาศละคร เหนือเมฆ 2 ว่า ปรากฏการณ์สั่งแบนละคร เหนือเมฆ 2 ทางช่อง 3 ทั้งที่ละครยังไม่จบ เป็นภาพสะท้อนของความก้าวร้าวแห่งอำนาจ ไม่แคร์คนดู ไม่แคร์คนกำกับ คนเล่น และไม่แคร์กฎหมายบ้านเมือง เป็นความลุแก่อำนาจและมีพฤติกรรมอุกอาจ กำเนิด "ชายชุดดำ" ในวงการทีวีไทยไปแล้ว แทบจะไม่เคยเห็นหรือไม่เคยมีกรณีแบบนี้ในสังคมไทย สังคมที่กำลังเรียกร้องและโหยหาสิทธิเสรีภาพ
    
            อย่างไรก็ดี ภายหลังเกิดเหตุ ผู้บริหารช่อง 3 ออกมาแถลงว่าเป็นคนตัดสินใจแบนเอง ไม่มีใครสั่งการ ไม่มีอำนาจการเมืองมาบงการทั้งสิ้น ตนได้ยินแล้วยิ่งรู้สึกหดหู่ใจและเวทนามากขึ้นเพราะถ้าเป็นเช่นที่ว่า เท่ากับปรากฏการณ์ "เซนเซอร์ตัวเอง" กลับมาในวงการสื่อสารมวลชนไทยอีกครั้ง ปรากฏการณ์นี้เกิดจากเหตุแห่งความกลัว ภัยคุกคาม กลัวสารพัด กลัวไปหมด จากอำนาจบางอย่าง จึงตัดสินใจจัดการ ปิดหู ปิดตา ปิดปากตัวเองเสีย เพื่อรอดพ้นจากภัยยากจะคาดเดา
        
            ทั้งนี้ นายสุริยะใสได้ตั้งข้อสังเกตและชวนให้คิดต่อว่า ข่าวสารช่อง 3 โดยเฉพาะข่าวการเมืองจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่ถูกครอบงำ แทรกแซงแทรกซึมและแทรกซื้อ ตนมีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้และอ่านบทคร่าว ๆ ถือว่าเป็นละครที่สะท้อนบริบทการเมืองไทยในรอบทศวรรษได้อย่างลึกซึ้ง ต้องขอชื่นชมและให้กำลังใจคนทำละครและเขียนบทรวมทั้งนักแสดงทุกคน เพียงแต่น่าเสียดายที่วงการละครทีวีไทยไม่มีที่ยืนให้กับ คนทำละครมืออาชีพ มีแต่อาชีพรับจ้างทำละครเกลื่อนกลาดดาษดื่นแบบที่เห็นกันอยู่

            นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า บทเรียนเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า "ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเองไม่พอเสียแล้วต้องย้อนดูสังคมการเมืองไทย ไปพร้อม ๆ กันด้วยถึงจะเข้าใจและเห็นจริง และจะรู้ว่าทำไม ทำไม... ทำไม....เหนือเมฆ 2 จึงกลายเป็นละครที่ไม่มีตอนจบ เพราะใครบางคน ไม่อยากเห็น จุดจบของตัวเอง"
      
            พร้อมกันนี้ นายสุริยะใสได้เสนอข้อชวนคิดและแลกเปลี่ยนกันเพื่อหาทางออกให้กรณีศึกษานี้เพื่อเป็นบทเรียนร่วมกันของสังคมไทย ดังนี้

                      เสนอให้นำละคร เหนือเมฆ 2 ไปฉายต่อทางช่อง ThaiPBS หรือทีวีสาธารณะ หากติดขัดเรื่องลิขสิทธิ์หรือสัญญาก็เอาเนื้อเรื่องไปแล้วหาตัวละครหรือดารานำคนใหม่

                      ผู้ผลิตละครเรื่องนี้น่าจะจัดทำในรูป DVD หรือไปลงในยูทูบ หรือผลิตแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ และเยาวชน หรือซื้อขายเพื่อการกุศลแทน อย่างน้อยคงดีกว่าหนังสือต้นกล้าความซื่อสัตย์ ที่กระทรวงศึกษาพิมพ์แจกเด็ก ๆ ในวันเด็กแห่งชาติ

                      ช่วยกันเรียกร้องกดดันผู้บริหารช่อง 3 ทบทวนคำสั่ง และให้ละครได้ออกอากาศต่อจนจบ โดยไม่มีการบิดเบือนหรือแปลงบทใด ๆ

                      อยากเห็นกลุ่มคนเขียนบท คนผลิตละครหรือบรรดาดาราที่เป็นมืออาชีพยังมีจิตวิญญาณรักความเป็นทำร่วมกันจับมือกันทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยเพื่อประกันว่าวงการละครไทยยังพอมีอนาคต ไม่ใช่เก่งแต่เรื่องน้ำเน่า
                      กสทช. ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลโทรทัศน์โดยตรงต้องเร่งสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดกับพฤติกรรมที่เป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพและละเมิดกฎหมายครั้งนี้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุริยะใส แนะแนวทางแก้ปัญหา เหนือเมฆ 2 ให้ย้ายช่องอื่น โพสต์เมื่อ 6 มกราคม 2556 เวลา 13:07:10 1,394 อ่าน
TOP