x close

ปิดคดี! ศาลไม่ส่งอุทธรณ์ คดีสมจิตต์ ฟ้องเสื้อแดงส่งอีเมลข่มขู่


สมจิตต์ นวเครือสุนทร


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Mata Vayu

            ปิดคดี! ศาลชั้นต้นไม่เซ็นรับรองส่งอุทธรณ์ คดีสมจิตต์ นักข่าวช่อง 7 ฟ้องเสื้อแดงส่งอีเมลข่มขู่ ชี้ อีเมลไม่ได้ส่งถึง สมจิตต์ จึงไม่ถือเป็นผู้เสียหาย และไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดการขู่เข็ญ เจ้าตัวน้อมรับผล

            เมื่อวันที่ 8 มกราคม นางสาวสมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Mata Vayu ถึงกรณีที่ถูก นางสาวพรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเพชรบุรี ส่งอีเมลข่มขู่ปองร้าย ทำนองว่า หากคนเสื้อแดงเห็นนางสาวสมจิตต์ที่ใดก็รบกวนช่วยสั่งสอนด้วย จากเหตุการณ์ที่ นางสาวสมจิตต์ ได้ถามคำถามนางสาวยิ่งลักษณ์จนต้องเดินเลี่ยง ในช่วงวันที่ 22-24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

            ทั้งนี้ นางสาวสมจิตต์ ระบุในเฟซบุ๊กว่า คดีดังกล่าวจบลงแล้ว หลังผู้พิพากษาศาลชั้นต้นไม่เซ็นรับรองยื่นอุทธรณ์ เพราะข้อความดังกล่าวไม่ได้ส่งถึงตนโดยตรง แต่เป็นข้อความที่ส่งกันในหมู่คนเสื้อแดง ดังนั้น จึงไม่ถือว่าตนเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่การข่มขู่ขู่เข็ญ อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอกราบขอบพระคุณสภาทนายความที่สละเวลาช่วยทำคดีนี้ให้ และพร้อมน้อมรับผลที่ออกมา เพราะนี่คือกติกาที่จะทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คือ ถูกผิดให้ตุลาการตัดสิน ไม่ใช่ความรู้สึกหรือใช้เสียงข้างมากมาชี้ถูกชี้ผิด


            สำหรับข้อความทั้งหมดที่ นางสาวสมจิตต์ ระบุไว้มีดังต่อไปนี้

            "ความถูกผิดยุติที่กระบวนการยุติธรรม เคารพคำตัดสินของศาลค่ะ ถือว่าคดีนี้จบแล้ว

            คดีแดงอีเมล์ขู่นักข่าวช่อง 7 ยุติแล้ว หลังผู้พิพากษาชั้นต้น ไม่เซ็นรับรองยื่นอุทธรณ์ ระบุ ข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาสำคัญอันควรที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป

            รายงานความคืบหน้าหลังจากที่ดิฉันได้มอบหมายให้ คุณกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ นายพิษณุ ทิพย์รอด ผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิต มีความเห็นยกฟ้องคดที่นางสาวพรทิพย์ ปักษานนท์ ประธาน นปช. เพชรบุรี ส่งอีเมลข่มขู่ผ่านเครือข่ายคนเสื้อแดงจำนวน 47 คน โดยวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า

            "คดีดังกล่าวนางสาวพรทิพย์มิได้ส่งข้อความ จำหน้าหล่อนไว้นาครับ เห็นที่ไหนก็จัดให้หน่อยแล้วกันครับ" ไปถึงนางสาวสมจิตต์โดยตรง แต่เป็นการส่งข้อความผ่านบุคคลต่าง ๆ รวม 47 คน จึงไม่เข้าองค์ประกอบกฎหมายอาญามาตรา 392 ที่บัญญัติว่า "ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษ...ซึ่งองค์ประกอบของความผิดนี้ผู้กระทำผิดจะต้องมีเจตนาขู่เข็ญต่อผู้เสียหายโดยตรง และประสงค์ต่อผลโดยทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจ ดังนั้น การที่จำเลยส่งข้อความไปยังบุคคลจำนวน 47 คนดังกล่าว โดยไม่ได้ส่งถึงนางสาวสมจิตต์โดยตรง จึงมิใช่เป็นการขู่เข็ญแต่เป็นเพียงการส่งข้อความภายในของกลุ่มนางสาวพรทิพย์เท่านั้น คดีจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายมาตรา 392"

            โดยในวันนี้ (8 มกราคม 56) ทนายความได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลว่า นายพิษณุ ทิพย์รอด ผู้พิพากษาชั้นต้นได้วินิจฉัยคำอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาในคดีนี้แล้ว มีคำสั่งไม่เซ็นรับรองให้ยืนอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ด้วยเหตุผลว่า "ข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาสำคัญอันควรที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป" จึงถือว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้วไม่สามารถดำเนินการอย่างใดได้อีก

            กราบขอบพระคุณสภาทนายความ และ คุณกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ที่สละเวลาช่วยทำคดีนี้ให้ ไม่ว่าผลเป็นอย่างไรพร้อมน้อมรับ เพราะนี่คือกติกาที่จะทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คือ ถูกผิดให้ตุลาการตัดสินไม่ใช่ความรู้สึกหรือใช้เสียงข้างมากมาชี้ถูก ชี้ผิด เพราะเสียงข้างมากบอกได้แค่ความต้องการเท่านั้น"

            จบซะทีก็ดีค่ะ ชีวิตมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ ^^




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปิดคดี! ศาลไม่ส่งอุทธรณ์ คดีสมจิตต์ ฟ้องเสื้อแดงส่งอีเมลข่มขู่ โพสต์เมื่อ 9 มกราคม 2556 เวลา 11:36:00 1,893 อ่าน
TOP