เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ย้ำชัด ไม่เกี่ยวข้องกับคดีลอบทำร้าย ราเมศ รัตนะเชวง บอกเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่เคยลอบกัดใคร และได้สั่งการให้เจ้าหน้าเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุดแล้ว
จากกรณีที่คนร้ายก่อเหตุดักทำร้ายร่างกาย นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในท้องที่ สน.บางนา ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม นายราเมศได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ถึงสาเหตุที่ถูกทำร้ายว่า น่าจะเกิดจากการทำคดีของพรรคและคดีของหัวหน้าพรรค ซึ่งล่าสุดคดีที่ทำคือ การยื่นหนังสือให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. ตรวจสอบและดำเนินคดีทางวินัยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดยศให้ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันนี้ (11 มกราคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า การสืบสวนคดีของนายราเมศ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. ตั้งทุกประเด็น อย่าตัดทิ้ง แม้นายราเมศและพรรคประชาธิปัตย์จะมองว่าตนเป็นคนทำก็ไม่ให้ตัดประเด็นนี้ หากมีพยานหลักฐานให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับตนได้ทันที
ขณะเดียวกันตนได้ชี้แจงให้คณะกรรมาธิการตํารวจ สภาผู้แทนราษฎร ทราบแล้วว่า การสืบสวนคดีต่าง ๆ ถ้าตั้งโจทย์ผิด คำตอบก็จะออกมาผิด ซึ่งหลังจากที่ชี้แจงเสร็จ ตนก็รีบเดินทางออกมา เพื่อให้คณะกรรมาธิการได้สอบถามพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนว่า ทำคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า แม้กระทั่งลายนิ้วมือแฝงที่ได้จากรถยนต์ก็ต้องนำมาตรวจสอบหาตัวคนร้ายให้ได้ ไม่มีการปกปิดพยานหลักฐาน และนิสัย สันดานของตนก็ไม่เคยลอบทำร้ายใคร ดังนั้นตนอยากจะฝากว่า ประเด็นต่าง ๆ ในคดีของนายราเมศ อย่าไปตัดทิ้ง และไม่ต้องกังวลว่าตนจะไปบังคับใคร ซึ่งที่ผ่านมา ตนทำคดีมาเยอะ คดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร คดีที่มีเงื่อนงำมากกว่านี้ยังปิดได้ ตำรวจต้องทำเต็มที่ทุกคดี ทำให้เท่าเทียมกัน ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว ให้สื่อมวลชน พี่น้องประชาชน และนายราเมศ สบายใจได้ตนจะหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษให้ได้
ทั้งนี้ หากนายราเมศต้องการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกันก็สามารถร้องขอมาได้ ในภาวะแบบนี้ตำรวจจะดูแลอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อิทธิพล ได้รายงานความคืบหน้าทางคดีมาเป็นระยะ ๆ แต่ตนไม่อยากเข้าไปสอบถามมากนัก เพื่อไม่ให้ลำบากใจ ต้องการให้ทำงานอย่างอิสระ ไม่ใช่เป็นผบช.น.แล้วจะไปบังคับลูกน้อง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด เมื่อรู้เส้นทางแล้วว่า นายราเมศออกเดินทางจากจุดไหนไปจุดไหน ก็ตรวจสอบวงจรปิดให้หมดทุกตัว ตนอยากให้ได้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ เขาจะได้ไม่มาพุ่งเป้าที่ตนอีก เพราะตนเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่เคยลอบกัดใคร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
