เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปลอดประสพ สุรัสวดี จวก พรรคประชาธิปัตย์ ไม่รักชาติ และควรออกมารับผิดชอบ เพราะส่งคนไปก่อเรื่องจนทำให้ปมเขาพระวิหารเกิดปัญหาเรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ (15 มกราคม) ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลกว่า ตอนที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ ได้แจ้งว่า ได้ถอนตัวจากเป็นคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลในสมัยของนายอภิสิทธิ์นั้น
แต่จนบัดนี้ ตนก็ยังไม่เห็นรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร เท่า ๆ กับไม่เคยรายงานของ ครม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่ารับรองการถอนตัวจากมรดกโลก แต่มาถึงวันนี้ก็ถึงบางอ้อ พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่ารัฐบาลนี้ควรถอนตัวแปลความหมายว่า การที่นายสุวิทย์ ไปถอนตัวก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นจากที่พรรคประชาธิปัตย์พูดเอง คำถามว่าถอนตัวแล้วได้อะไร
ข้อแรกตนอยากให้ฝ่ายค้านไปอ่านการขอเข้าเป็นสมาชิกมรดกโลก เนื่องจากประเทศไทยประกาศมรดกโลกทางธรรมชาติ และทางด้านวัฒนธรรมจำนวนมาก และทุกครั้งในการขอเราจะยกย่องคณะกรรมการมรดกโลกว่า การประกาศเข้าเป็นมรดกโลก ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ได้อย่างไรในเรื่องการท่องเที่ยว เป็นการยกระดับประเทศไทยว่าให้ความสำคัญทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งเราแซ่ซ้องสรรเสริญมรดกโลกมาตลอด แต่มาตอนนี้กลับอยากจะถอนตัว
ส่วนคำถามเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร ที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า เป็นปัญหาเรื่องเขตแดนที่ค้างคามานานกว่า 50 ปีไม่ใช่เรื่องมรดกโลกจริง ๆ นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้ประชาชนสับสน ทั้งที่ถ้าพูดเรื่องปัญหาพรมแดนก็จะเข้าตัวพรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากทางพรรคเคยเอาพรรคพวกข้ามแดนไปจนถูกเขาจับได้ แล้วก็ซมซานกลับมา เพราะฉะนั้นตนอยากจะขอร้องพรรคฝ่ายค้านว่า เราควรร่วมมือกันต่อสู้เพื่อรักษาเขตแดนประเทศไทยไว้ให้ได้ก่อน
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยแนะนำในทางที่ถูกเลยว่าจะต้องต่อสู้อย่างไร ซ้ำยังพูดแต่ทางลบ ทำให้คนสับสน ตนยืนยันว่า เราไม่ออกจากคณะกรรมการมรดกโลก เพราะไม่เห็นประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว เพราะลาออกหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับคดีนี้เลย ก่อนจะเป็นมรดกโลกต้องเป็นมรดกอย่างหนึ่งอย่างใดมาแล้ว ไม่ว่าจะด้านธรรมชาติหรือวัฒนธรรม
นายปลอดประสพ ยังกล่าวอีกว่า อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนขอตั้งให้เป็นมรดกโลก ซึ่งแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์เองก็เห็นความสำคัญจึงประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่พอมีเรื่องขึ้นมากลับบอกว่าไม่เกี่ยว ทั้งหมดที่ตนพูด ตนแค่อยากขอร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้ารักประเทศไทย และตั้งใจจะร่วมกันต่อสู้เพื่อรักษาดินแดนจริง ต้องไม่พูดชักน้ำให้ขุ่น และทำให้คนเขวอย่างที่ทำอยู่นี้ ซึ่งที่จริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์ควรรับผิดชอบเหตุการณ์ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เพราะหนทางดี ๆ พูดคุยกันดี ๆ ก็มีอยู่ตั้งเยอะ แต่กลับไปสร้างปัญหาขึ้นมา ทั้งนี้ หากสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง พรรคประชาธิปัตย์สามารถโต้แย้งได้ทันที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
