x close

มท. ตั้งทีมสอบต่างด้าวสวมบัตรประชาชนไทย พบจ่าย 1-2 แสน/ใบ


มท. ตั้งทีมสอบต่างด้าวสวมบัตรประชาชนไทย พบจ่าย 1-2 แสน/ใบ
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            มท. ร่วมมือ ดีเอสไอ ตั้งทีมร่วมตรวจสอบต่างด้าวสวมบัตรประชาชนไทย พบล่าสุดมีคนสวมสิทธิ์แล้วกว่า 1 แสนใบ สอบเจ้าหน้าที่รัฐร่วมขบวนการ คิดค่าใช้จ่าย 1-2 แสนบาทต่อใบ

            วันที่ 23 มกราคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันหารือถึงความร่วมมือในการแก้ปัญหาการปลอมแปลงทะเบียนราษฎร์โดยการสวมบัตรประจำตัวประชาชนของคนต่างด้าว ตามที่ดีเอสไอได้ตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและกระบวนการค้ามนุษย์มีการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านเพื่อให้ได้สิทธิในการเป็นคนไทยนั้น

            นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ทั้งกระทรวงมหาดไทยและดีเอสไอจะร่วมมือเพื่อปราบปรามโดยนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์มาใช้ในการตรวจสอบค้นหาข้อมูลจะสามารถติดตามต้นตอของผู้กระทำความผิดได้ ให้ทีมงานร่วมของสองหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบในสำนักงานทะเบียนที่พบว่ากระทำผิด เพื่อรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีทางกฎหมาย เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนได้ดี          

            ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เคยมีข่าวการทำหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ผิดพลาด ได้รับการชี้แจงว่าหลักฐานที่ไม่ได้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือหลักฐานที่มีก่อนปี 2535 อาจจะไม่ได้บันทึก อย่างไรก็ดี กระทรวงได้กำหนดมาตรการให้เดือนกุมภาพันธ์ 2556 เป็นเดือนแห่งการตรวจสอบและสะสางหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ให้ถูกต้อง หากหลักฐานไม่ถูกต้องให้มาแก้ไขที่สำนักงานทะเบียนที่ว่าการอำเภอได้ ทั้งนี้ ในอนาคตกระทรวงจะปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร์ให้ครอบคลุมข้อมูลด้านต่าง ๆ เพื่อให้งานการทะเบียนสนับสนุนแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ        

            ด้าน นายธาริต กล่าวถึงปัญหาขบวนการปลอมบัตรประชาชนซึ่งดีเอสไอ จะลงพื้นที่ตรวจสอบการทำบัตรประชาชนปลอมให้คนต่างด้าวใน อ.เวียงแห จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 24 มกราคมว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องน่าห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะแต่เดิมพบการลักลอบ เพื่อเข้ามาพักอาศัยจึงต้องการได้สัญชาติเพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้ แต่ปัจจุบันต้องการทำบัตรประชาชนเพื่อแฝงตัวกระทำความผิดในลักษณะเป็นอาชญากรข้ามชาติร้ายแรง ขณะนี้ยอมรับว่าแม้จะมีไม่มาก แต่เพียงแค่รายเดียวก็สร้างปัญหาได้

            ขณะที่พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวว่า การเพิ่มชื่อในทะเบียนและการสวมชื่อทำบัตรประชาชนเคยเกิดขึ้นแล้วกับกลุ่มนักค้ายาเสพติดชื่อดัง เหว่ย เซียะ กัง ที่มีบัตรประชาชนไทย ชื่อ นายชาญชัย ชีวินนิติปัญญา กลุ่มคนเหล่านี้เมื่อถูกดำเนินคดีก็จะหลบหนีออกนอกประเทศไทยและอ้างว่าไม่ใช่คนไทย

            ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบการทำบัตรประชาชนให้คนต่างด้าวจะแยกตามประเภทและค่าใช้จ่าย เช่น สวมตัวเพื่อทำบัตรในหมวดเลข 3 ซึ่งเป็นคนไทย เกิดก่อนปี 2527 หรือการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านเพื่อขอออกบัตรในหมวดเลข 5 ซึ่งเป็นบัตรประชาชนสำหรับบุคคลที่พ่อแม่ลืมแจ้งเกิด บัตรใน 2 หมวดนี้ จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1.2-1.8 แสนบาท นอกจากนี้ยังออกบัตรประจำตัวประชาชนในหมวดเลข 6 และ 8 ด้วย ในหมวดดังกล่าวจะออกให้กับชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในไทยมานาน   

            ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวต่อว่า ในการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้วางแนวทางการตรวจสอบทางเทคนิค ซึ่งจะประมวลเอกสารที่ยื่นประกอบการขอมีบัตรประชาชนปลอมประมาณ 1 แสนแผ่น ซึ่งตั้งเป้าจะตรวจสอบและเพิกถอนให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน นอกจากนี้ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้เข้าชี้ข้อมูลนักค้ายาเสพติดที่สวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยและประสานให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมมือกับขบวนการปลอมบัตรประชาชน

 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มท. ตั้งทีมสอบต่างด้าวสวมบัตรประชาชนไทย พบจ่าย 1-2 แสน/ใบ โพสต์เมื่อ 24 มกราคม 2556 เวลา 11:31:31 4,081 อ่าน
TOP