เฉลิม เตรียมหารือ มหาเธร์ ดับไฟใต้ ที่เกาะลังกาวี ต้นกุมภาพันธ์นี้ รับเตรียมทบทวนมาตรการบังคับใช้กฎหมายจัดการไฟใต้
เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดกระบวนการพูดคุยสันติภาพและการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สถิติข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุด กลุ่มโจรแบ่งแยกดินแดนมีจำนวน 9,822 คน ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) พยายามแก้ปัญหาด้วยการนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.กอ.รมน.) มาตรา 21 มาบังคับใช้ แต่มีปัญหาคือในพื้นที่ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จึงไม่สามารถนำมาตรา 21 มาบังคับใช้ได้ จากข่าวว่ารองนายกฯ ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้บินไปหารือกับผู้นำมาเลเซีย อยากทราบว่ารัฐบาลมีแนวคิดที่จะนำวิธีการพูดคุยสันติภาพมาใช้หรือไม่ เพราะในหลายประเทศซึ่งมีความขัดแย้งในลักษณะดังกล่าว เช่น ไอร์แลนด์เหนือ แอฟริกา หรืออินโดนีเซียได้ใช้กระบวนการพูดคุยสันติภาพและประสบความสำเร็จ
นายศุภชัยกล่าวต่อไปว่า กระบวนการพูดคุยสันติภาพอาจเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ ไม่ใช่ให้รัฐไปคุย หรือรองนายกฯ ไปคุย เพราะจะเกิดความไม่ไว้วางใจ และการพูดคุยต้องไม่ใช่การเจรจาต่อรอง แต่เพื่อสร้างความเชื่อใจและหาข้อยุติของปัญหา เช่น การนิรโทษกรรมเพื่อวางอาวุธ เป็นต้น ล่าสุด ได้เกิดสถานการณ์สังหารครูอีก 1 รายต่อหน้าเด็กนักเรียน รัฐบาลที่นอกจากจะมีแนวทางนำครู ตชด. ไปสอนหนังสือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ขอเสนอให้พิจารณานำครูมุสลิมที่สอนอยู่ในจังหวัดอื่น กลับไปสอนในพื้นที่ภาคใต้ด้วย และเสนอให้รัฐบาลใช้แนวทางการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ แห่งชาติ (กอส.) เหมือนที่รัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยใช้ โดยนำบุคคลภายนอกที่ได้รับความไว้วางใจเข้ามาร่วมทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เช่น นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ หรือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ มาร่วมทำงานแก้ปัญหา แทนที่รัฐบาลจะแบกภาระไว้เอง
ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว แต่ตนเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ จึงเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อหารือกับนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นได้รับความร่วมมือการขึ้นทะเบียนผู้ใช้แรงงาน พนักงานเสิร์ฟในร้านต้มยำกุ้ง คิดธรรมเนียมต่อคนเดือนละ 400 บาท โดยตนมองว่าหากพนักงานเสิร์ฟดังกล่าวมีรายได้ส่งเงินให้ครอบครัว และเมื่อครอบครัวมีเงินและพนักงานเสิร์ฟมีงานทำ ก็จะไม่กลับมาเป็นเหยื่อของผู้ก่อการฯ อีก ซึ่งนายราจิบได้แนะนำให้ตนหารือกับ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯ ขณะนี้เป็นประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษ (รอยตะเข็บ) โดยตนได้รับการตอบรับให้เข้าไปพบช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ตนเตรียมเรียกประชุมเร็ว ๆ นี้ถึงการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพราะในบางพื้นที่ได้นำมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.กอ.รมน.มาใช้ แต่บางกรณีมีการออกหมายจับตาม ป.วิอาญา ซึ่งมีผู้เสียหาย ดังนั้นการให้ผู้ต้องหาหรือนักโทษมามอบตัวเข้ารับการอบรมไม่ถือเป็นเรื่องการเมือง เช่น เหตุฆ่าครูคนไทยมุสลิม ไม่ใช่อุดมการณ์ แต่เป็นเรื่องไม่ควร ตนพยายามคิดหาความพอดีในส่วนนี้อยู่ แต่ได้รับมอบให้เข้ามาทำงาน 2 เดือน ยังกำหนดประเด็นในแนวทางไม่ได้ จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับคณะทำงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้มาตรา 21 ของพ.ร.บ.ความมั่นคงด้วย
ช่วงเช้ามีนักข่าวมาสัมภาษณ์ว่าจะแก้ปัญหาครูใต้อย่างไร ก็บอกว่าต้องรักษาหลักการเดิมและได้คุยกับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เขาบอกว่าในอดีตมีครู ตชด. ในพื้นที่พรรคคอมมิวนิสต์ และขณะนี้มีครู ตชด. อยู่ 1,227 คน ผมกำลังสั่งผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนว่า ให้เตรียมกำลังไว้หากไปสอนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ และที่สงขลาอีกแห่ง แต่ผมตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องถามฝ่ายปกครอง และฝ่ายการศึกษาว่ายอมรับได้หรือไม่ หากเขาตกลง จะส่งครู ตชด.ลงไปในพื้นที่ทันที อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดของนายศุภชัย ตนยินดีรับไปพิจารณา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
