x close

กรณ์ ยื่นศาล รธน. ทบทวน พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน เบิกจ่ายแค่ 1%


กรณ์ จาติกวณิช

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij

          กรณ์ ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณา พ.ร.ก. กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทอีกครั้ง พร้อมแฉว่า ไม่มีรายละเอียดโครงการอย่างเป็นรูปธรรม มีการเบิกจ่ายเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่บอกศาลในตอนแรก
 
          เมื่อวานนี้ (28 มกราคม) นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนายนนท์นิพัทธ์ โพธิ์เดชธำรง ผอ.บริหารกลางศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการออก พ.ร.ก. กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล ในการบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่า การออก พ.ร.ก. กู้เงินดังกล่าว รัฐบาลไม่มีแผนการใช้จ่ายเงินอยู่จริง และไม่มีโครงการบริหารจัดการน้ำใด ๆ อย่างเป็นรูปธรรม มียอดเบิกจ่ายเพียงแค่ 4,639.34 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับงบประมาณทั้งหมด เท่ากับว่าใช้ไปเพียงร้อยละ 1 โดยการกระทำดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับข้ออ้างที่รัฐบาลใช้เสนอต่อศาลว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องออก พ.ร.ก. กู้เงินนี้แต่อย่างใด
 
          นายกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงเจตนารัฐบาล ที่ต้องการนำเงินมหาศาลไปใช้ในทางมิชอบ ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าขัดกับหลักวินัยการเงิน การคลัง และงบประมาณตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ประเทศเกิดความเสียหาย ทั้งที่ความจริง รัฐบาลสามารถนำเงินตรงส่วนนี้ไปไว้ใน พ.ร.บ. งบประมาณ 2555 หรือกู้เงินตาม พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ 2548 หรือ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมก็ได้ โดยที่ไม่ต้องออก พ.ร.ก. ฉบับใหม่
 
          เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกรณ์ยื่นเรื่องนี้ต่อศาล ต้องการบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้รัฐบาลกู้เงินได้ ถือเป็นความผิดพลาดและไม่ทันเกมรัฐบาล ใช่หรือไม่? ซึ่งนายกรณ์ตอบว่า ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้รัฐบาลกู้เงินได้ เป็นเพราะศาลไม่มีข้อมูลที่จะประเมินได้ต่างหาก ดังนั้นต้องให้เกียรติ ให้ความไว้ใจรัฐบาลที่ไม่น่าจะนำข้อมูลเท็จมาชี้แจงต่อศาลได้ แต่วันนี้ทุกคนก็เห็นว่า ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างที่รัฐบาลอ้าง
 
          นอกจากนี้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยังเปิดเผยอีกว่า ในอนาคตข้างหน้า รัฐบาลยังมีแผนกู้เงินอีกครั้ง คือ พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งตนมองว่าก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับ พ.ร.ก. กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่ขาดประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายและความโปร่งใส อีกทั้งหากปล่อยให้รัฐบาลออก พ.ร.บ. เงินกูนอกระบบได้อีก ก็เท่ากับว่าเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลออกกฎหมายเงินกู้ให้ตัวเอง โดยที่ไม่มีการตรวจสอบ แล้วจะเป็นบรรทัดฐานให้แก่รัฐบาลชุดต่อ ๆ ไป
 
          นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นวันหมดอายุของ พ.ร.ก. กู้เงิน เป็นที่น่าจับตามองว่า รัฐบาลจะไม่มีสิทธิ์ในการนำเงินก้อนนี้มาใช้อีก แต่ถ้าหากรัฐบาลอ้างว่า เรื่องนี้เป็นการทำสัญญาเงินกู้ล่วงหน้า แต่ยังไม่มีการกู้ ก็คงจะเป็นประเด็นทางกฎหมายอีกว่า การทำสัญญาเงินกู้ เสมือนเป็นการกู้เงินมาแล้วหรือไม่
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กรณ์ ยื่นศาล รธน. ทบทวน พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน เบิกจ่ายแค่ 1% โพสต์เมื่อ 29 มกราคม 2556 เวลา 11:41:07
TOP