แจกแล้ว 8 ล้าน เปิดตัวไทยลีก
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่โรงแรมเรดิสัน ได้มีการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย และพิธีลงนามบันทึกช่วยจำ (MOU) พร้อมทั้งมอบเงินบำรุงทีมฟุตบอล ที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2007 โดยมี ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วยนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. และนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานจัดการแข่งขันฯ
โดย ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นับว่าเป็นเรื่องดีของวงการฟุตบอลของไทยที่สามารถเกิดฟุตบอลอาชีพได้เพียงแค่ลีกเดียวเท่านั้น และที่สำคัญจะเป็นการยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพของการแข่งขันให้ดีขึ้นทั้งระบบ รวมทั้งทำให้เกิดความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศ
เชื่อว่าหากมีการเริ่มต้นที่ดีลีกอาชีพของไทยก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และสามารถจะก้าวไปเท่าเทียมกับลีกของเพื่อนบ้านได้ในอนาคตข้างหน้า โดยรัฐบาลควรให้การสนับสนุนฟุตบอลลีกอาชีพอย่างต่อเนื่องประมาณ 5 ปี เพื่อให้แต่ละทีมสามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ฟุตบอลลีกอาชีพจะแข็งแกร่ง
ซึ่งหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นลงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. กับนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานจัดการแข่งขัน โดยมี ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นสักขีพยาน จากนั้น ดร.สุวิทย์ได้ทำพิธีมอบเงินบำรุงทีมเป็นเงินสดให้แก่ 16 ทีม ทีมละ 500,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,000,000 บาท โดยจะเริ่มฟาดแข้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มี.ค.นี้ พร้อมทั้งพิธีเปิดสนามอย่างเป็นทางการ ที่สนามกีฬากองทัพบก ซึ่งจะเป็นการแข่งขันระหว่าง สโมสรกองทัพบก กับสโมสรบีอีซี เทโรศาสน
นอกจากนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ทัศนะ เกี่ยวกับผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ แทนนายวิจิตร เกตุแก้ว ที่ลาออก ว่า เนื่องจากฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของประเทศและทั่วโลก ดังนั้น บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนั้น ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและต้องเป็นอินเตอร์ พอสมควร เพราะต้องมีการติดต่อประสานงานจากประเทศต่างๆ เท่าที่มองดูมีหลายคนเหมือนกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกจะเลือกใคร ส่วนในรายของนายวรวีร์ มะกูดี ที่หลายคนมองว่ามีความเหมาะสมนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นด้วย อีกทั้งนายวรวีร์เป็นบอร์ดของฟีฟ่าด้วย
ส่วนกรณีที่ทางสโมสรตำรวจแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ทวงถามถึงเงินรางวัลของฟุตบอลดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาลที่แล้วจำนวน 13 ล้านบาทนั้น
