แฟ้มภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์
เผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยพบว่า หากผู้สมัครฯ ได้รับการแต่งตั้งแล้ว แต่ถูก กกต. ให้ใบแดง จะต้องชดใช้เงินที่จ่ายจริงในการจัดการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งปีนี้คิดเป็นยอดเงินกว่า 160 ล้านบาท
เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงของการหาเสียง เพื่อเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในวันที่ 3 มีนาคม 2556 และเพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่หลายคนอาจไม่เคยทราบกันมาก่อน ล่าสุด ในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยเผยว่า ทุกครั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบ ทั้งข้อกฎหมายและประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งหากมีข้อร้องเรียนการทำผิดของผู้สมัคร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีสิทธิพิจารณาให้ใบเหลือง ใบแดง ได้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้สมัครได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไปแล้ว และถูก กกต. ให้ใบแดง หรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครคนนั้นจะต้องชดใช้เงินในการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่เกินวงเงินที่ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) จ่ายจริงในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ปี 2556 ครั้งนี้ กทม. ได้กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งไว้ที่ 160 ล้านบาท เท่ากับว่าหากมีการให้ใบแดงเกิดขึ้น นอกจากผู้ว่าฯ กทม. คนดังกล่าว จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว ยังต้องจ่ายเงินชดใช้ด้วย
ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯ กทม. ถูกใบเหลือง จะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ผู้ที่ถูกใบเหลืองไม่ต้องจ่ายค่าจัดการเลือกตั้ง โดย กทม. จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการเลือกตั้งในทุกระดับแล้ว แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นเพียงการเลือกตั้งผู้บริหารในระดับท้องถิ่น แต่ค่าชดใช้กรณีที่ถูกใบแดงนั้น ถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งแบบอื่น เพราะไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นอื่น ๆ ก็จะถือเป็นพื้นที่เลือกตั้งเฉพาะพื้นที่ เฉพาะเขต นอกจากนี้ ในพื้นที่อื่น ๆ หรือในจังหวัดอื่น เมื่อเทียบจำนวนหน่วยเลือกตั้งกับ จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พบว่าจำนวนไม่สูงมากเท่ากับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีหน่วยเลือกตั้งกว่า 6,000 หน่วย และมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 4 ล้านคน จึงทำให้งบประมาณที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง สูงกว่าการเลือกตั้งในระดับอื่น ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
