ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ตึก ตลท. (ไอเอ็นเอ็น)
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แสดงวิสัยทัศน์ "พงศพัศ" จะคืนความสุขให้คน กทม. "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์" เน้น นโยบายที่เป็นจริง "โฆสิต" กทม. ต้องเป็นมหานคร 24 ชม. "เสรีพิศุทธ์" ให้ กทม. เป็นมหานครท่องเที่ยว
วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้จัดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครเบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะคืนความสุขให้กับคนกรุงเทพฯ ขจัดปัญหายาเสพติดออกจากชุมชน จัดพื้นที่สีเขียวในชุมชนต่าง ๆ ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครเบอร์ 16 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะเน้นนโยบายที่เชื่อมโยงกับความเป็นจริง เอาศักยภาพที่มีอยู่มาพัฒนาให้ดีขึ้น เป็นมหานครที่มีโอกาส และเป็นมหานครของอาเซียน
ด้าน นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครเบอร์ 10 นามอิสระ กล่าวว่า กรุงเทพฯ ต้องเป็นมหานคร 24 ชั่วโมง เนื่องจากวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ เป็น 24 ชั่วโมง ดังนั้น การบริการของกรุงเทพฯ ต้องเป็น 24 ชั่วโมง ตามไปด้วย สำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้ลงสมัครหมายเลข 11 นามอิสระ กล่าวว่า จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว
โดยในงานสัมมนาเพื่อร่วมแสดงวิสัยทัศน์ของว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้จัดขึ้น ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในหัวข้อ ยุทธศาสตร์เปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร ให้กลายเป็นมหานครศูนย์กลาง ตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนด โดย นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครหมายเลข 10 สังกัดอิสระ ได้เสนอแนวทางจะผลักดันให้กรุงเทพมหานคร เป็นมหานครศูนย์กลางของอาเซียนในทุกด้าน อาทิ ศูนย์การค้าธุรกิจ, ศูนย์วัฒนธรรม และศูนย์การบันเทิง เนื่องจาก กรุงเทพมหานคร มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม มีศักยภาพสูง จึงง่ายต่อการผลักดัน
ส่วน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ลงสมัครหมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย จะเน้นการจัดการขั้นพื้นฐาน โดยจะติดกล้อง CCTV เพื่อลดปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาอัคคีภัย ด้วยการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัย ให้มีการเชื่อมโยงกล้องวงจรปิดทุกตัว เพื่อสังเกตการณ์ภัยอันตราย พร้อมจะแก้ไขปัญหาการจราจร และจะบำบัดน้ำเสียอีกด้วย
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ลงสมัครหมายเลข 16 พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเสนอผลงานต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว แต่ต้องการให้กรุงเทพมหานคร มีอำนาจในการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ โดยต้องการผลักดันให้มีการกระจายอำนาจในทุกท้องถิ่น จัดการบริหารด้วยตัวเอง ไม่ต้องอาศัยรัฐบาลกลางอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทุกท้องถิ่นพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
สภาตลาดทุนกระตุ้นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ยก กทม. ขึ้นชั้นมหานคร
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ที่ปรึกษาคุณวุฒิ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครและประเทศ จึงอยากเห็นการเสนอกรอบวิสัยทัศน์รอบเมือง ให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครศูนย์กลาง รวมทั้ง มีการแก้ไขปัญหาระยะสั้นของกรุงเทพมหานคร ควบคู่กับการวางแผนพัฒนาในระยะยาว
ส่วนปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น มองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เศรษฐกิจชะลอตัว จึงทำให้มีเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากไหลเข้ามาหาผลประโยชน์ในแถบประเทศที่ให้ผลทดแทนการลงทุนสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย จึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องดูแลตัวเอง และบริหารความเสี่ยงด้วยการเลือกลงทุนในหุ้นที่ดูจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการดี ขณะที่ภาครัฐจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายในการดูแลค่าเงินบาท ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลก เพราะปัจจัยที่ทำให้เงินบาทเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
