พระพายัพ เขมคุโณ หรือนามเดิมนายพายัพ ชินวัตร
ว.วชิรเมธี พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าง 3, เฟซบุ๊ก ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)
ลูกศิษย์ ว.วชิรเมธี สุดงง พระพายัพ ได้สมณศักดิ์ หลังบวชเพียง 10 วัน ชี้ผิดธรรมเนียม ส่วน ว.วชิรเมธี บวชมากว่า 20 ปี ความรู้-ผลงานเพียบกลับไม่ได้
สืบเนื่องจากกรณีที่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่งตั้งพระพายัพ เขมคุโณ หรือนามเดิมนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" ทั้งที่เพิ่งจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่วัดป่าพุทธคยา ประเทศอินเดีย และจะมีกำหนดลาสิกขาวันที่ 11 มีนาคมนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติ พระสงฆ์ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมต้องอุปสมบทมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 พรรษานั้น
ล่าสุด วานนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2556) พระครูไพศาล กิตฺติภทฺโท เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี ซึ่งเคยประกอบพิธีเสริมดวง ต่อชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ในอดีตเคยมีการแต่งตั้งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ทั้งที่บวชได้เพียง 3 พรรษา ต่อมาท่านก็ได้รับการยกย่องเป็นกวีเอกของโลก กรณีของพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ก็เช่นกัน ถ้าสมเด็จพระธีรญาณมุนี มีเมตตาถือเป็นเรื่องปกติ ถึงจะบวชได้เพียง 3 วัน หรือ 1 วันก็ตาม แต่ความรู้สึกคนทั่วไปจะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใช้ทัศนคติใดโดยไม่ดูราชประเพณีโบราณอาจเสียหายได้เหมือนกัน
ขณะที่ทางด้านลูกศิษย์ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือรู้จักกันดีในนาม "ว.วชิรเมธี" ที่มีชื่อเสียงว่า เป็นพระนักวิชาการ นักคิดนักเขียน และนักบรรยายธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าใช้หลักเกณฑ์อะไรแต่งตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด หากเปรียบเทียบกับพระพระมหาวุฒิชัยแล้วถือว่าห่างชั้นกันมาก
ส่วนทางด้านพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า การแต่งตั้งพระฐานานุกรมมีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 2 ข้อ คือ 1.ต้องอุปสมบทมาหลายพรรษา และ 2.ต้องมีผลงานการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา อาตมาเห็นข่าวว่า พระพายัพมีผลงานในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาหลายประการ เช่น การสร้างโบสถ์ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง พระพายัพก็มีสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมได้
การแต่งตั้งพระฐานานุกรมเป็นสิทธิ์ของผู้ให้ เมื่อผู้ให้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้รับมีสิทธิ์ที่จะได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และที่สำคัญพระพายัพก็บวชไม่นาน พระคู่แข่งในตำแหน่งนี้ก็ไม่น่าจะมีความวิตกกังวลอะไร ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
เมื่อถามว่าหลักการกำหนดให้พระที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมต้องบวชมาแล้วหลายพรรษานั้น พระพยอมกล่าวว่า ไม่ควรไปยึดเรื่องพรรษาแล้ว เพราะพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา แต่ไม่เคยทำคุณงามความดีหรืออะไรที่เป็นประโยชน์แก่พระศาสนา ก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่งอะไรให้เลย
ปัจจุบันพระมหาวุฒิชัยได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ นอกจากนั้นก็ยังรับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนาให้หน่วยงานต่าง ๆ อีกมากมาย
ในแง่จริยวัตรส่วนตัวนั้น นอกจากท่านจะเป็นพระนักวิชาการ พระนักคิด นักเขียน แล้วท่านก็ยังสนใจฝึกสมาธิภาวนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสิบปี มีผลงานทางวิพากษ์และแนะนำสังคมหลายเรื่อง เช่น บทละครโทรทัศน์และหนังสือเรื่อง "ธรรมะติดปีก" ซึ่งได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ในงานสัปดาห์พระพุทธศาสนาวิสาขบูชาประจำปี 2550 จึงน่าจะได้รับการเสนอชื่อให้พิจารณารับแต่งตั้งสมณศักดิ์มานานแล้ว ส่วนพระพายัพนั้นบวชไม่กี่วันก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูแล้ว และอีกไม่กี่วันก็จะสึก หากบวชไม่สึกแล้วและได้รับการแต่งตั้งก็พอจะน่าอนุโมทนาได้บ้าง แต่เมื่อเป็นแบบนี้อนุโมทนาไม่ได้จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เคยกล่าวไว้ว่าแม้ว่าพระมหาวุฒิชัยจะมีผลงานที่เด่นจัด แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์และระเบียบใด ๆ ของมหาเถรสมาคม (มส.) ทั้งสิ้น การพิจารณาสมณศักดิ์ต้องไล่ที่ระดับ ต้องดูโควตา โดยมีเสนอตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาส ทั้งนี้ ถ้าจะได้ก็ต่อเมื่อต้องเสนอแต่งตั้งให้เป็นกรณีพิเศษจริง ๆ ไม่มีเกณฑ์ใดที่จะเสนอทั้งสิ้น
ทั้งนี้ สำหรับพระมหาวุฒิชัย บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2530 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมีพระครูโสภณจริยกิจ เจ้าคณะอำเภอเชียงของ เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ โดยมีพระเทพสิทธินายก (ชื่น ปญฺญาธโร) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์
ด้านการศึกษา พ.ศ. 2543 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และต่อมาในปี พ.ศ. 2546 พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการแต่งตั้ง พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์นั้น ทางอธิบดีกรมการศาสนา ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า พระอุปัชฌาย์ของพระพายัพได้ตั้งฉายาว่าพระครูปลัดนั้น เป็นเพียงแค่ฉายาแต่ไม่ใช่การแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมแต่อย่างใด พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่า ตำแหน่งสมณศักดิ์ไม่ได้ซื้อกันง่าย ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก