เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พม่ายอมเลื่อนซ่อมท่อส่งก๊าซออกไปอีก 1 วัน กับอีก 6 ชั่วโมง รวมเป็น 30 ชั่วโมง ด้านกระทรวงพลังงาน เตรียมแจ้งพื้นที่ใดบ้างหยุดจ่ายไฟ บ่ายนี้
วานนี้ (19 กุมภาพันธ์) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ ยาดาน ในประเทศพม่า ประกาศปิดปรับปรุงในช่วงวันที่ 4-12 เมษายน ซึ่งจะทำให้จำนวนก๊าซที่จะส่งมายังประเทศไทยหายไป 1.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ว่า ในเบื้องต้นได้เจรจากับผู้ผลิตแล้ว ให้เลื่อนการปรับปรุงออกไปอีก 2-3 วัน ให้ใกล้กับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่คาดว่าในช่วงนั้นความต้องการไฟฟ้าจะลดลงกว่าในช่วงปกติ
โดยล่าสุด ทางพม่ายินดีที่จะเลื่อนวันออกไปอีก 1 วัน กับอีก 6 ชั่วโมง รวมเป็น 30 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นผลดีในระดับหนึ่ง เพราะในวันที่ 4 เมษายน ถือว่าเป็นวันที่ร้อนที่สุดของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม แม้ทางพม่าจะยอมเลื่อนวันออกไป แต่ในบางพื้นที่โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม อาจได้รับผลกระทบอยู่บ้าง ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงพลังงาน ได้ไปเจรจากับภาคอุตสาหกรรม ขอให้หยุดทำการซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยล่าสุด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ได้ให้การตอบรับในการร่วมมือแล้ว และในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 12.00 น. กระทรวงพลังงาน จะแถลงให้ทราบว่า พื้นที่ใดบ้างที่จะต้องหยุดจ่ายไฟชั่วคราว รวมทั้งบริษัทใดบ้างที่จะให้ความร่วมมือ
ท้ายนี้ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 27,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 26,700 เมกะวัตต์ เนื่องจากในปีนี้มีการขยายตัวทางด้านเศษฐกิจมาก ส่วนปริมาณก๊าซที่จะหายไปในช่วงพม่าปิดปรับปรุงนั้น จะกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าไทยราว 6,000 เมกะวัตต์ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้เตรียมแผนป้องกันแล้ว โดยเบื้่องต้นจะให้โรงไฟฟ้าใช้น้ำมันเตา และน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่สามารถทดแทนกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 4,100 เมกะวัตต์ และต่อจากนี้ ควรพึ่งพาเชื้อเพลิงประเภทอื่น เช่น ถ่านหินสะอาด เอทานอล ซึ่งจะลดความเสี่ยงได้ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก
อย่างไรก็ดี ด้าน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับแนวทางประหยัดพลังงานของหน่วยงานราชการ โดยเสนอให้มีข้อบังคับการประหยัดพลังงานลดลง 10% จากปีก่อน ซึ่งหากหน่วยงานใดใช้ไฟฟ้าเกิน 15% จากปีก่อน จะเสนอให้มีการคาดโทษตัดงบประมาณประจำปีในปีต่อไป พร้อมกับมีนโยบายประหยัดแอร์ คือ ให้เปิดในช่วง 08.30-16.30 น. ในอุณหภูมิ 25-26 องศาเซลเซียส เท่านั้น นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากประชาชนให้ร่วมประหยัดพลังงานด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
